วันที่ 1: สัมผัสวัฒนธรรมของชาวเปอรานากัน

ครอบครัวกำลังหัดทำขนมกูเอห์พายทีที่ร้าน The Intan
1 Joo Chiat/Katong

ช่วงเช้า: Hotel Indigo (โรงแรมอินดิโก)

พักที่โรงแรม Hotel Indigo Singapore Katong โดยคุณจะสะดุดตากับด้านหน้าโรงแรมที่แต่เดิมเป็นสถานีตำรวจ Joo Chiat (จู เชียต) และได้รับการตกแต่งใหม่ โรงแรมแห่งนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์ของวันวาน ด้วยการตกแต่งและภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ได้แรงบันดาลใจจากมรดกทางวัฒนธรรมของย่าน Joo Chiat/Katong (จูเชียต/กาตง) ที่ห้อมล้อมอยู่รายรอบ 

คุณสามารถเพลิดเพลินกับสิ่งอำนวยความสะดวกของโรงแรมที่มีให้สำหรับทุกคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำแบบไร้ขอบบนชั้นดาดฟ้า หรือนอนพักผ่อนริมสระ เลือกห้องพักแบบเชื่อมต่อกัน เพื่อให้มีพื้นที่กว้างขวางสำหรับคนในครอบครัว นอกจากนี้ โรงแรมนี้ยังอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ใช้เก้าอี้รถเข็นและเป็นโรงแรมปลอดบุหรี่อีกด้วย

ช่วงบ่าย: สัมผัสวัฒนธรรมเปอรานากัน

ทำความคุ้นเคยกับมรดกสืบทอดของชาวเปอรานากัน* ในย่านที่มีความเป็นมาเก่าแก่ Joo Chiat และ Katong ลองแวะไปที่ Rumah Bebe คุณจะได้ชมงานฝีมือจากลูกปัด งานเย็บปักถักร้อย ตลอดจนเครื่องประดับสวยๆ สีสันสดใสของชาวเปอรานากัน

จากนั้น แวะชมสถานที่เก่าแก่ล้ำค่าของย่าน Joo Chiat นั่นคือ The Intan บ้านเก่าแก่ที่อนุรักษ์ไว้เพื่อแสดงถึงวัฒนธรรมของชาวเปอรานากัน ลงทะเบียนจองทัวร์ Intan Signature Tea Experience เพื่อจิบชาและเดินสำรวจบ้านเก่าแก่ที่อนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งรับประทานอาหารว่างของชาวเปอรานากันและชิม ขนมกูเอห์ (ขนมหวานขนาดพอดีคำ) สไตล์โฮมเมด ทัวร์จิบชายามบ่ายนี้มีให้บริการตลอดวันและคิดค่าบริการ S$10 ต่อคน สำหรับการเข้าชมแบบเป็นกลุ่มที่มีผู้เข้าร่วม 6 คนขึ้นไป สำรองที่นั่งผ่าน อีเมล หรือโทรศัพท์ (+65 6440 1148)

*คำในภาษาอินโดนีเซีย/มาเลย์ที่แปลว่า "เกิดในท้องถิ่น" โดยทั่วไปแล้ว หมายถึงชาวจีนเชื้อสายมลายู/อินโดนีเซีย

ช่วงเย็น: รับประทานอาหารสูตรต้นตำรับ

สิ้นสุดวันด้วยอาหารอร่อยๆ ที่ร้าน Quentin’s Eurasian Restaurant เพื่อชิม อาหารที่มีเอกลักษณ์สูตรต้นตำรับซึ่งถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นมายังเชฟ Quentin Pereira

หากคุณต้องการชิมอาหารรสจัด ต้องลอง kari debal (แกงกะหรี่รสเผ็ดร้อนแบบยูเรเชียดั้งเดิม เพิ่มรสชาติด้วยถั่วแคนเดิลนัทและน้ำส้มสายชู) อาหารเมนูนี้มีที่มาค่อนข้างจะเรียบง่าย โดยมาจากอาหารเหลือในช่วงเทศกาลคริสต์มาส เช่น แฮมและไส้กรอก และนำมาปรุงให้มีรสจัดด้วยรสชาติที่เผ็ดร้อนและออกเปรี้ยวนิดๆ โดยรสเปรี้ยวนั้นได้มาจากหัวหอม ตะไคร้ ขมิ้นชัน ถั่วแคนเดิลนัท และ ข่า ที่นำมาปรุงรสอย่างลงตัว

วันที่ 2: ชมสวนต่างๆ ของสิงคโปร์

ป้ายหน้าร้าน Open Farm Community และทางเข้าร้าน
2 สวนพฤกษศาสตร์สิงคโปร์ (Singapore Botanic Gardens)

ช่วงเช้า/ช่วงบ่าย: เดินเล่นในสวน

เริ่มเช้าวันใหม่ด้วยความแจ่มใสที่ Singapore Botanic Gardens (สวนพฤกษศาสตร์สิงคโปร์) แล้วเดินเล่นท่ามกลางพันธุ์ไม้สวยงามในสวนแห่งนี้ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นสถานมรดกโลกแห่งแรกของสิงคโปร์โดยองค์การยูเนสโก

แวะปิกนิกแบบครอบครัวที่ทะเลสาบ Symphony Lake (ซิมโฟนี เลค) หรือสนุกกันใน Learning Forest ซึ่งมี Canopy Web หรือเชือกคลุมต้นไม้สูงแปดเมตรที่เด็กๆ สามารถปีนได้ รวมถึงทางเดินลอยฟ้ายาว 260 เมตรเหนือสวนพฤกษศาสตร์ ที่เรียกว่า SPH Walk of Giants

นอกจากนี้ คุณยังสามารถรับประทานอาหารมื้อสายได้ที่ร้านอาหารภายในสวนพฤกษศาสตร์ ซึ่งมีให้เลือกหลายร้าน เช่น Corner House, The Halia หรือ Casa Verde ขณะเดียวกัน Singapore Botanic Gardens ยังมีบริการให้เช่าวีลแชร์และรถเข็นเด็กอีกด้วย

ช่วงเย็น: ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

ลองชิมอาหารสไตล์ใหม่ๆ ที่ร้าน Open Farm Community ที่นี่คุณจะได้เห็นการทำฟาร์มในเมืองที่เริ่มแพร่หลายในสิงคโปร์ด้วยตาคุณเอง พร้อมกับสัมผัสแนวคิดจากฟาร์มสู่โต๊ะอาหาร ที่กำลังนิยมในสิงคโปร์

Open Farm Community ปลูกพืชผลในไร่ของทางร้านซึ่งตั้งขึ้นในเมือง (อยู่ข้างร้านอาหาร) และนำผักสดเหล่านี้มาใช้ในการปรุงอาหาร คำแนะนำ: ทางร้านยังมีพื้นที่ขนาดใหญ่กลางแจ้งสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ ซึ่งคุณสามารถเล่นโบว์ลิ่งในสนามหญ้าหรือเล่นปิงปองสักรอบ เพื่อความสนุกสนานของครอบครัว  

วันที่ 3: เรียนรู้และสร้างสรรค์

การแสดงของวงดนตรีที่โรงละครกลางแจ้ง Esplanade
3 Marina Bay

ช่วงเช้า/ช่วงบ่าย: ความรู้คู่ความสนุก

ดื่มด่ำกับงานศิลปะวัฒนธรรมที่ ArtScience Museum™ (พิพิธภัณฑ์ศิลป์และศาสตร์) และเพลิดเพลินกับนิทรรศการต่างๆ ที่เน้นความสำคัญของศิลปะและวิทยาศาสตร์ งานที่เป็นจุดเด่นของพิพิธภัณฑ์ได้แก่ ไดโนเสาร์, ศิลปิน Andy Warhol, ทะเลลึก และแม้แต่ภาพยนตร์เรื่อง Harry Potter

ลองมองหาเวิร์กช็อปและทัวร์พิเศษที่มีไกด์นำชมสถานที่ เพื่อเที่ยวชมนิทรรศการต่างๆ ที่จัดในพิพิธภัณฑ์ นับเป็นโอกาสที่ดีในการพาสมาชิกในครอบครัวไปเรียนรู้ หรือแวะชมงานนิทรรศการถาวร Future World:Where Art Meets Science ที่จัดแสดงงานที่สวยงามในแบบอินเทอร์แอคทีฟ ซึ่งครอบครัวจะได้มีโอกาสถ่ายรูปร่วมกัน

ช่วงเย็น: ศิลปะและวัฒธรรม

หลังจากดวงอาทิตย์ตกแล้ว ให้เดินข้ามสะพาน Helix Bridge (สะพานเฮลิกซ์) ไปยังโรงละคร Esplanade–Theatres on the Bay เพื่อชมการแสดงโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายที่โรงละครกลางแจ้งหรือบริเวณลานกว้าง คุณควรตรวจดูปฏิทินการจัดงานกิจกรรมและซื้อบัตรชมการแสดงอันตระการตา

คุณยังสามารถเข้าร่วมกิจกรรมศิลปะที่ Esplanade (เอสพลานาด) ได้ด้วย แทนที่จะเพียงแค่เป็นผู้ชม เพราะที่นี่จัดเวิร์กช็อปที่น่าสนใจและการพูดคุยเสวนาในหัวข้อศิลปะที่คุณสามารถมีส่วนร่วมได้ พาคนในครอบครัวไปเข้าร่วมฝึกงานฝีมือ แล้วนำผลงานศิลปะของคุณเองกลับบ้าน รับรองไม่มีของที่ระลึกในช่วงวันหยุดใดที่ดีไปกว่านี้แล้ว

วันที่ 4: ชม 'อดีต' และ 'ปัจจุบัน' ของย่านเก่าแก่

ภาพด้านหน้าของ Masjid Jamae ในย่าน Chinatown
4 Chinatown (ไชน่าทาวน์)

ช่วงเช้า/ช่วงบ่าย: เมื่อประวัติศาสตร์กับความทันสมัยมาบรรจบกัน 

บริเวณทางแยกที่เป็นจุดพบกันของอดีตกับปัจจุบันที่ย่าน Chinatown (ไชน่าทาวน์) คุณอาจเลือกแวะร้านกาแฟ (เริ่มด้วยการไปที่ร้าน Nanyang Old Coffee หรือ My Awesome Café) หรือช้อปปิ้ง (ถนน Pagoda Street มีของที่ระลึกดีๆ ในราคาย่อมเยา) หรือเที่ยวชมสถานที่ทางประวัติศาสตร์และศาสนสถานหลายแห่ง

ย่าน Chinatown (ไชน่าทาวน์) ยังสิ่งที่แสดงถึงเบ้าหลอมทางวัฒนธรรมของสิงคโปร์ กล่าวคือ คุณจะพบเห็นศาสนสถานของหลายศาสนาตั้งอยู่ใกล้กัน เช่น Buddha Tooth Relic Temple (วัดพระเขี้ยวแก้ว), Sri Mariamman Temple (วัดศรีมาริอัมมันต์) และ Jamae Mosque (มัสยิดจาเมย์) 

ครอบครัวสนุกสนานบนเรือนำเที่ยว Singapore River Cruise โดยมีย่านธุรกิจใจกลางเมืองเป็นฉากหลัง
5 Singapore River (แม่น้ำสิงคโปร์)

ช่วงเย็น: ล่องเรือในแม่น้ำและนั่งรถประจำทางชมเมือง

การท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมในสิงคโปร์ย่อมไม่สมบูรณ์ได้ถ้าคุณไม่ได้ไปเยือน Singapore River (แม่น้ำสิงคโปร์) ปากแม่น้ำสายนี้เคยเป็นท่าเรือในประวัติศาสตร์ของสิงคโปร์ก่อนที่สิงคโปร์จะประกาศอิสรภาพ และเป็นจุดเริ่มต้นของความเจริญรุ่งเรืองของสิงคโปร์จวบจนถึงทุกวันนี้

ล่องเรือในแม่น้ำในยามเย็นเพื่อชมวิวที่งดงาม (มีดวงอาทิตย์ตกเป็นฉากหลัง ถ้าคุณไปล่องเรือในเวลาสักทุ่มหนึ่ง) และความคึกคักของชีวิตยามราตรีแบบท้องถิ่นใน Clarke Quay (ท่าเรือคลาร์ก คีย์) และ Boat Quay (ท่าเรือโบ๊ทคีย์) นอกจากนี้ คุณยังสามารถขึ้นรถประจำทางชมเมือง เช่น ทัวร์รถบัสเป็ดและทัวร์รถบัสฮิปโปชมเมืองที่ให้บริการรอบบริเวณดังกล่าว

วันที่ 5: ช้อป ชิม ชิลในเมือง

อาหารที่ Crystal Jade Golden Palace ย่าน Orchard Road
6 Orchard Road (ถนนออร์ชาร์ด)

ถ้าคุณมาเพื่อช้อปปิ้ง Orchard Road (ถนนออร์ชาร์ด) คือสถานที่ที่คุณต้องไม่พลาด เริ่มต้นที่ Plaza Singapura (พลาซ่า สิงหปุระ) ซึ่งคุณสามารถเลือกเสื้อผ้าแบรนด์ดังจากร้าน G2000, Cotton On และอื่นๆ อีกมาก

มุ่งหน้าไปที่ร้าน 313@Somerset และ Orchard Central เพื่อดูแฟชั่นใหม่ล่าสุดและสตรีทแฟชั่นจากแบรนด์ชั้นนำ เช่น Uniqlo, Love Bonito และ Zara ถ้าคุณสนใจอยากเดินเที่ยวห้างสรรพสินค้าหรูหรา คุณน่าจะแวะไปที่ Paragon (ห้างพารากอน) ที่เป็นแหล่งรวมแบรนด์ระดับบนที่มีชื่อเสียง เช่น Gucci, Prada และ Versace

ช่วงเย็น: สำหรับนักชิมทั้งหลาย

Orchard Road มีอะไรมากไปกว่าการช้อปคลายเครียด เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจที่แท้จริง พาครอบครัวไปรับประทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ในบริเวณนี้ร้านใดก็ได้

ถ้าต้องการทานอาหารเอเชีย คุณควรจองโต๊ะที่ Crystal Jade Golden Palace ซึ่งมีอาหารจีนจานใหญ่แบบคลาสสิกสำหรับครอบครัว เช่น หมูหัน 

วันที่ 6: สนุกสนานร่วมกันทั้งครอบครัวที่ Sentosa

ผู้คนที่มาท่องเที่ยวชายหาด Sentosa
7 เกาะเซ็นโตซ่า

ช่วงเช้า/ช่วงบ่าย: เล่นทั้งวัน 

เตรียมครีมกันแดดให้พร้อมแล้วไปที่ชายหาดที่เหมาะกับทุกคนในครอบครัวมากที่สุดของเกาะ Sentosa นั่นคือ Palawan Beach (หาดปาลาวัน) เพื่อเล่นน้ำหรือพักผ่อนอย่างมีความสุขท่ามกลางแสงแดด ถ้าครอบครัวของคุณชอบความตื่นเต้น คุณต้องไม่พลาดที่จะแวะไปที่ Universal Studios Singapore (ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์) ที่เต็มไปด้วยเครื่องเล่นสนุกๆ มากมาย

หรือเดินชมสัตว์น้ำในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ S.E.A. Aquarium™ ตื่นตาตื่นใจกับฉลามที่ Shark Seas Habitat และปลากระเบนราหูใจดีที่ว่ายโฉบเฉี่ยวไปมาในส่วนของ Open Ocean

ช่วงเย็น: การผ่อนคลายที่คุณคู่ควร

ถ้าเด็กๆ เข้านอนหลังจากทำกิจกรรมจนเหนื่อยล้าแล้ว ได้เวลาที่คุณกับคู่รักควรไปใช้บริการสปาที่ดีที่สุดของเกาะ Sentosa ผ่อนคลายและเติมความมีชีวิตชีวาที่ Auriga Spa ในโรงแรม The Capella Singapore หรือ AWAY Spa ในโรงแรม W Hotel (สปาทั้งสองแห่งเปิดให้บริการถึงเวลา 22.00 น. ทุกวัน) 

วันที่ 7: ไปล่องเรือ

ภาพมุมสูงของเรือสำราญที่ Marina Bay
8 มารีน่า เบย์ ครูซ เซ็นเตอร์ (Marina Bay Cruise Centre)

ตอนนี้ได้เวลาที่คุณจะเที่ยวชมสิงคโปร์แล้ว ขึ้นเรือสำราญที่ Singapore Cruise Centre (สิงคโปร์ ครูซ เซ็นเตอร์) หรือ Marina Bay Cruise Centre (มารีน่า เบย์ ครูซ เซ็นเตอร์) แล้วสำรวจพื้นที่ส่วนที่เหลือของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

ครูซ เซ็นเตอร์ทั้งสองแห่งนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย และให้บริการท่องเที่ยวโดยบริษัทชั้นนำ เพื่อไปยังจุดหมายปลายทางที่งดงามที่สุดในภูมิภาคนี้ นอกจากนี้ เรือสำราญที่ทันสมัยยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายเพื่อความบันเทิง เช่น สระว่ายน้ำบนดาดฟ้า การแสดงสด และแม้แต่ลานน้ำแข็งสำหรับเล่นสเกต ตลอดจนผนังหินสำหรับกิจกรรมปีนหน้าผา

สิ่งอื่นๆ

ที่น่าลอง