ภาพใกล้ของขนมปังปิ้งไส้สังขยา ไข่ลวก และกาแฟร้อน
1 ร้านยาคุน คายาโทสต์ (Ya Kun Kaya Toast)

9.00 น.: อาหารเช้าแบบคนสิงคโปร์

เริ่มต้นวันใหม่ด้วยอาหารเช้าที่พลาดไม่ได้ในแบบฉบับของคนสิงคโปร์ที่  ร้านยาคุน คายาโทสต์ (Ya Kun Kaya Toast) สัมผัสบรรยากาศในศูนย์ธุรกิจใจกลางเมืองในสิงคโปร์ที่ค่อยๆ ตื่นขึ้นในยามเช้าในขณะที่คุณจิบกาแฟรสเข้มและอร่อยกับ ขนมปังปิ้งไส้สังขยา (Kaya Toast) ที่เข้ากันเป็นอย่างดี ความหอมหวานมันกำลังดีของ สังขยา ที่ทาบนขนมปังปิ้งและทาเนยอีกชั้น ตัดกับรสชาติของขนมปังปิ้งกรอบๆ ที่หอมกลิ่นไหม้เล็กน้อย หากต้องการลิ้มลองรสชาติแสนอร่อยอย่างแท้จริง ให้ลองจิ้ม คายาโทสต์ ลงในไข่ลวก และตบท้ายด้วยกาแฟรสเข้มข้น

นั่งรถไฟฟ้า MRT ไปที่สถานี Telok Ayer (สาย Downtown) และเดินไปที่ถนน China Street (ไชน่าสตรีท)

ประตูด้านหน้าของ Fort Canning Park
2 สวนสาธารณะฟอร์ทแคนนิง (Fort Canning Park)

10.00 น.: สำรวจสวนเครื่องเทศ (Spice Garden) ฟอร์ทแคนนิ่ง

คุณคงเคยได้ลิ้มรสและสูดกลิ่นหอมของเครื่องเทศ เช่น จันทน์เทศ อบเชย และกานพลูในอาหารท้องถิ่นมาแล้ว คราวนี้เราจะมาชมพืชสมุนไพรเหล่านี้กันที่สวนเครื่องเทศ (Spice Garden) เก่าแก่ที่ Fort Canning Park (สวนสาธารณะฟอร์ทแคนนิ่ง) สวนนี้เดิมมีพื้นที่ 19 เฮ็กตาร์ ซึ่งเซอร์ สแตมฟอร์ด ราฟเฟิลส์ ได้จัดสร้างขึ้นบนเนินเขา Fort Canning Hill ในปี ค.ศ. 1822 

มองหาพืชสมุนไพรและเครื่องเทศยอดนิยมที่มักนำมาใช้ปรุงอาหารท้องถิ่น เช่น ขิง ใบหลักซา เตยหอม และสมุนไพรพื้นเมืองที่ใช้รักษาโรคได้ คุณไม่สามารถเด็ดพืชเหล่านี้ได้ แต่สามารถถ่ายภาพพืชพรรณและสูตรอาหารที่ติดไว้บนป้ายแสดง ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่คุณ

นั่งรถไฟฟ้า MRT ไปที่สถานี Fort Canning (สาย Downtown) หรือนั่งแท็กซี่ไปที่ Hotel Fort Canning จากนั้นเดินเข้าไปชมสวน

อาหารทะเลสดใหม่ที่ตลาด Geylang Serai
3 เกลัง เซอไร มาร์เก็ต (Geylang Serai Market)

11.15 น.: แวะช้อปที่ตลาด Geylang Serai (เกลัง เซอไร)

วิธีที่ดีที่สุดในการลองลิ้มรสชาติอาหารท้องถิ่นก็คือการแวะไปที่ตลาดสดของท้องถิ่นนั้น ตลาด Geylang Serai ในย่าน Geylang ที่คึกคักจอแจ เป็นหนึ่งในตลาดสดที่ใหญ่ที่สุดและคึกคักที่สุดในสิงคโปร์

นับตั้งแต่ที่ตลาดแห่งนี้เปิดทำการในปี ค.ศ. 1964 ที่นี่ก็กลายเป็นแหล่งจับจ่ายซื้อของของชุมชนชาวมาเลย์ ซึ่งมีทั้งชาวมาเลย์และชาวมุสลิมอินเดียที่มาซื้อเนื้อสัตว์ ผักและผลไม้ท้องถิ่นและต่างประเทศ ตลาดนี้เต็มไปด้วยความคึกคักจอแจ และมอบความประทับใจให้ทุกประสาทสัมผัสของคุณ ด้านหน้าตลาด ซึ่งมีผลงานสถาปัตยกรรมมาเลย์ดั้งเดิม และเหมาะแก่การถ่ายรูปลง Instagram

แวะซื้ออาหารแห้งและเครื่องอุปโภคบริโภค รวมทั้งเครื่องเทศติดไม้ติดมือเป็นของฝาก หรือเป็นวัตถุดิบในการทำอาหารของคุณคราวหน้า คุณต้องแวะที่ศูนย์อาหารบนชั้นสองเพื่อชิมอาหารมาเลย์รสเลิศในสิงคโปร์

นั่งรถไฟฟ้า MRT ไปที่สถานี Paya Lebar (สาย Circle หรือ East-West) จากนั้นเดินไปที่ตลาด Geylang Serai

ปิ่นโตลวดลายสวยงามหลากสีสัน
4 กิม จู กูเอห์ จาง (Kim Choo Kueh Chang)

12.00 น.: สัมผัสวัฒนธรรมเปอรานากัน

Kim Choo Kueh Chang เป็นที่ที่เหมาะในการเรียนรู้วัฒนธรรมและอาหารของชาวเปอรานากัน* ที่ Kim Choo Gallery ยังจัดแสดงและจำหน่ายเสื้อผ้าพื้นเมือง เครื่องประดับ และเครื่องเคลือบหลากหลายรูปแบบ แต่แน่นอนว่าจุดเด่นก็คือบ๊ะจ่างย่าหยาที่มีขายที่นี่เท่านั้น

เอร็ดอร่อยกับข้าวเหนียวนุ่มๆ ใส่เนื้อหมูผัดที่หอมอร่อยและเปื่อยกำลังดี รวมทั้งส่วนผสมอื่นๆ ที่สำคัญคือเครื่องเทศหอมๆ ที่ช่วยชูรสบ๊ะจ่างสูตรนี้

*คำในภาษาอินโดนีเซีย/มาเลย์ที่แปลว่า "เกิดในท้องถิ่น" โดยทั่วไปแล้ว หมายถึงชาวจีนเชื้อสายมลายู/อินโดนีเซีย

เรียกแท็กซี่จากตลาดเกลัง เซอไร ไปที่ถนนอีสต์โคสต์ และลงที่คิมชู แกลเลอรี่ ซึ่งอยู่เลยจากศูนย์การค้ากาตง ไปนิดเดียว

ภาพมุมกว้างของ Raffles Hotel Singapore
5 โรงแรมราฟเฟิลส์ (Raffles Hotel) สิงคโปร์

15.00 น.: จิบน้ำชายามบ่าย

หากคุณรู้สึกหิวกระหายหลังจากเดินทางสำรวจเมืองมาทั้งวัน ขอแนะนำให้มุ่งหน้าไปที่ Raffles Hotel (โรงแรมราฟเฟิลส์) ที่มีชื่อเสียง และเป็นสถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของสิงคโปร์ และแวะไปที่ Tiffin Room เพื่อชิมอาหารที่น่ารับประทานซึ่งจัดวางไว้อย่างสวยเก๋บนแท่นวางสามชั้น

ภัตตาคารสุดหรูแห่งนี้เสิร์ฟอาหารอินเดียเหนือสำหรับมื้อกลางวันและมื้อค่ำ แต่ในช่วงบ่ายจะเสิร์ฟชาตามแบบวัฒนธรรมอังกฤษ ที่นี่มีแซนด์วิชชิ้นเล็กแสนอร่อย เช่น ไส้แซลมอนกับครีมชีส และไข่กับมายองเนสและต้นหอมจีน รวมทั้งเค้กแบบอังกฤษรสละมุน เช่น สตรอเบอร์รี ทาร์ตพิสตาชิโอ และบานาน่าครัมเบิล

หรือคุณอาจจะแวะไปที่ The Grand Lobby ก็ได้ ด้านในล็อบบี้ตกแต่งงดงามวิจิตรด้วยแรงบันดาลใจจากยุควิกตอเรีย คุณจะได้ลิ้มรสชาหอมกรุ่น ขนมปังหลากรส และจิบแชมเปญชั้นเยี่ยม

หมายเหตุ: โปรดแต่งกายแบบลำลองสุภาพเพื่อให้เหมาะกับสถานที่

เรียกรถแท็กซี่จาก Kim Choo Kueh Changและลงที่ Raffles Hotel

น้ำอ้อยหอมหวานและภาพมุมกว้างของ Maxwell Food Centre
6 ศูนย์อาหารแม็กซ์เวลล์

18.00 น. : เพลิดเพลินความน่าตื่นตาตื่นใจของอาหารสำหรับมื้อค่ำ

ถ้าคุณอยากลองชิมอาหารจากศูนย์อาหารฮอว์กเกอร์ ให้ไปที่ Maxwell Food Center (ศูนย์อาหารแม็กซ์เวล) หนึ่งในศูนย์อาหารที่ได้รับความนิยมสูงสุดในสิงคโปร์ ที่นี่ คุณจะได้พบกับกองทัพอาหารหน้าตาชวนรับประทานจากร้านค้ากว่า 100 ร้านที่อยู่ภายใต้หลังคาเดียวกัน

นั่งรถไฟฟ้า MRT ไปลงที่สถานี Telok Ayer (สาย Downtown) จากนั้นเดินไปที่ Maxwell Food Centre

ภาพมุมกว้างของ Ann Siang Hill ในยามค่ำคืน
7 ภูเขาแอนเซียงได้ (Ann Siang Hill)

คุณไม่ต้องออกไปไหนไกลจากย่านไชน่าทาวน์เพื่อค้นหาแหล่งท่องราตรีดีๆ ย่าน Club Street (คลับสตรีท) และ Ann Siang Hill (ภูเขาแอนเซียง) นั้นมีบาร์และสถานที่นั่งดื่มที่ทันสมัยและมีชีวิตชีวามากมาย

หากต้องการลองชิมค็อกเทลที่ได้แรงบันดาลใจจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้ลองจิบ Ding Dong แถวถนน Amoy Street (อามอยสตรีท) นอกจากนี้ ยังขอแนะนำ Roti Kaya เครื่องดื่มซิกเนเจอร์ที่ผสมวิสกี้กับเหล้ารัมที่ชวนให้นึกถึงรสชาติของน้ำกะทิใบเตยหอมหวานสูตรต้นตำรับของสิงคโปร์ และ gula melaka (น้ำตาลมะพร้าว)

อย่าลืมแวะไปที่แกสโตรบาร์อย่าง Oxwell and Co ที่คุณจะเพลิดเพลินกับวิวเมือง หรือนั่งจิบเครื่องดื่มอย่างผ่อนคลายที่ Forest Darts Cafe ที่คุณจะพบปะกับคนสิงคโปร์มากมาย มีเวทีร้องเพลงคาราโอเกะ หรือเล่นเกมปาลูกดอกกับเพื่อนนักดื่มด้วยกัน

จาก Maxwell Food Centre สามารถเดินไป Club Street & Ann Siang Hill ได้ โดยใช้เวลาไม่เกินห้านาที