หมายเหตุจากบรรณาธิการ: เราเข้าใจดีว่าในขณะนี้การเดินทางข้ามประเทศอาจยังไม่สามารถทำได้และผู้คนทั่วโลกจำเป็นต้องพักอยู่ที่บ้าน แต่บทความต่อไปนี้อาจช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้คุณมาเยือนสิงคโปร์ในอนาคตเมื่อสถานการณ์คลี่คลายลง และเราสามารถกลับมาเดินทางท่องเที่ยวกันได้ ฉะนั้นในตอนนี้ โปรดดูแลรักษาสุขภาพของคุณให้แข็งแรง สิงคโปร์รอการกลับมาเที่ยวของคุณ

สิงคโปร์เป็นเมืองหลวงที่ทันสมัยและเต็มไปด้วยตึกระฟ้าและสถานที่สำคัญที่เป็นสัญลักษณ์ต่างๆ มากมาย เชิญคุณมาเที่ยวสิงคโปร์และแวะชมสถานที่สำคัญๆ เหล่านี้พร้อมกับเรียนรู้เรื่องราวที่น่าสนใจของสถานที่ดังกล่าว

เด็กๆ เล่นฟุตบอลกันที่ Marina Barrage (เขื่อนกั้นน้ำมาริน่า) ในยามเย็น โดยมีรูปเงาของ Marina Bay (มารีน่า เบย์) เป็นฉากหลัง

CHIJMES
ด้านหน้าอาคาร CHIJMES ที่งดงาม

CHIJMES (ไชม์ส) ซึ่งตอนนี้เป็นแหล่งรวมร้านค้า บาร์ และร้านอาหารต่างๆ มากมายนั้น อดีตเคยเป็นที่ตั้งของโรงเรียนคาทอลิกในช่วงทศวรรษ 1800 เรือนหลังใหญ่ที่ประกอบด้วยอาคารต่างๆ ในสไตล์สถาปัตยกรรมที่งดงามแตกต่างกันนี้ มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจและทำหน้าที่มาหลากหลายในแต่ละช่วงของประวัติศาสตร์ นั่นคือ เคยเป็นสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เป็นหอพักนักศึกษา และเป็นโบสถ์น้อยที่มีสถาปัตยกรรมแบบโกธิก

อาคารหลังนี้ได้รับเรียกขานใหม่ว่า CHIJMES (ไชม์ส) ในปี 1990 ซึ่งเป็นชื่อย่อของโรงเรียนคอนแวนต์และเป็นเสียงระฆังของหอระฆังที่นี่ ภายหลังการปรับปรุงตกแต่งใหม่ CHIJMES ได้กลายเป็นแหล่งรวมร้านอาหารและสถานบันเทิงยามค่ำคืนสุดโปรดของใครหลายๆ คนจนมาถึงปัจจุบัน

CHIJMES 30 Victoria Street, Singapore 18796
ทุกวัน เวลา 9.30-18.30 น. เวลาเปิดทำการจะแตกต่างกันไปสำหรับร้านค้าแต่ละแห่ง


Esplanade – Theatres on the Bay (เอสพลานาด – เธียเตอร์ส ออน เดอะเบย์)
รูปลักษณ์ของส่วนหนึ่งของหลังคา Esplanade ที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์

สถานที่แห่งนี้ตั้งชื่อตาม Esplanade Park ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ กันโดยเป็นสวนสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดในสิงคโปร์ ศูนย์จัดงานศิลปะการแสดงพื้นที่ 60,000 ตารางเมตรนี้มีฉายาว่า “ทุเรียน” ที่ชาวสิงคโปร์ชอบเรียกขานกันเพราะรูปทรงสถาปัตยกรรมภายนอกของอาคารที่มีหนามแหลม Esplanade เริ่มก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ทศวรรษ 1970 โดยเป็นศูนย์กลางที่ชาวสิงคโปร์สามารถมีส่วนร่วมและได้รับแรงบันดาลใจจากงานศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น

ตั้งแต่ที่ Esplanade เปิดต้อนรับผู้เข้าชมในปี 2002 ก็ได้ปฏิวัติวงการศิลปะในสิงคโปร์และกลายเป็นสถานที่ศูนย์กลางที่คึกคักมีชีวิตชีวาเพราะเป็นแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหารรสเลิศ และแหล่งบันเทิงต่างๆ สถานที่แห่งนี้ยังจัดการแสดงที่น่าสนใจตลอดทั้งปี ตั้งแต่การแสดงที่เปิดให้เข้าชมฟรีซึ่งจัดขึ้นริมอ่าว ไปจนถึงงานเทศกาลประจำปี เช่น เทศกาลเบย์บีทส์, เทศกาล da:ns, หัวยี่ – เทศกาลศิลปะจีน และอื่นๆ อีกมากมาย

Esplanade – Theatres on the Bay (เอสพลานาด – เธียเตอร์ส ออน เดอะเบย์) 1 Esplanade Drive สิงคโปร์ 038981
เคาน์เตอร์ต้อนรับเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 12.00-20.30 น.


Merlion Park (เมอร์ไลออน พาร์ค)
ภาพมุมกว้างในยามเย็นของเมอร์ไลออนที่มองออกไปทาง Marina Bay Sands และ ArtScience Museum

แวะชมรูปปั้นอันยิ่งใหญ่ที่เป็นสัญลักษณ์ของสิงคโปร์ นั่นคือ Merlion (เมอร์ไลออน) สัตว์ในตำนานที่มีครึ่งหนึ่งเป็นสิงโต และครึ่งหนึ่งเป็นปลา เมอร์ไลออนประกอบด้วยองค์ประกอบสองส่วนที่เป็นอัตลักษณ์ของสิงคโปร์ นั่นคือ ส่วนของร่างกายที่เป็นปลาซึ่งก็คือสัญลักษณ์ของหมู่บ้านชาวประมงในอดีตของสิงคโปร์ ในขณะที่ส่วนหัวสิงโตเป็นสัญลักษณ์ของสิงหปุระ (“เมืองสิงโต” ในภาษาสันสกฤต)

เมอร์ไลออน สร้างขึ้นโดยช่างฝีมือชาวสิงคโปร์ที่ชื่อ ลิม นัง เส็ง (Lim Nang Seng) และได้เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 กันยายน 1972 โดยอดีตนายกรัฐมนตรีลีกวนยู ผู้ล่วงลับ รูปปั้นสัญลักษณ์นี้ตั้งอยู่ที่ปากแม่น้ำ Singapore River (แม่น้ำสิงคโปร์) แต่ต่อมาได้ย้ายมาตั้งอยู่ ณ ตำแหน่งปัจจุบันคือ Merlion Park ที่มองออกไปทางอ่าว

Merlion Park (เมอร์ไลออน พาร์ค) One Fullerton, Singapore 049213
ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง


Singapore Flyer
ภาพครึ่งหนึ่งของ Singapore Flyer ที่ตัดกับท้องฟ้าอันกว้างไกล

Singapore Flyer (สิงคโปร์ ฟลายเออร์) ตั้งตระหง่านที่ระดับความสูง 165 เมตรและเป็นชิงช้าสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ชิงช้าสวรรค์แห่งนี้เปิดตัวในปี 2008 และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากเนื่องจากสามารถมองเห็นวิวมุมกว้างที่สวยงามของ Marina Bay และเมืองสิงคโปร์ นอกจากนี้ สิงคโปร์ฟลายเออร์ยังเป็นจุดเด่นของภาพฉากหลังสำหรับการแข่งขัน FORMULA ONE Singapore Grand Prix Marina Bay Street Circuit มาเป็นเวลานานหลายปีแล้วด้วย

Singapore Flyer (สิงคโปร์ ฟลายเออร์) 30 Raffles Avenue, Singapore 039803
ทุกวัน เวลา 8.30-22.30 น.


อาคารรัฐสภาเก่า
ด้านนอกของ The Arts House มีดอกไม้สีชมพูประดับล้อมกรอบ

อาคารรัฐสภาเก่าหรือปัจจุบันรู้จักกันในชื่อ The Arts House (ดิ อาร์ต เฮาส์) ถือเป็นอาคารสไตล์โคโลเนียลที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังหลงเหลืออยู่ในสิงคโปร์ ในปี 1826 อาคารดั้งเดิมแห่งนี้ได้รับการออกแบบและจัดสร้างโดยสถาปนิก G.D. Coleman โดยเป็นสถานที่พำนักอาศัยในสไตล์นีโอ-ปัลลาเดียน อาคารรัฐสภาเก่าแห่งนี้ได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการว่าเป็นอนุสาวรีย์แห่งชาติในปี 1992 และในปี 2003 ได้รับการแปลงโฉมให้เป็น The Arts House และกลายเป็นแหล่งรวมผลงานศิลปะของสิงคโปร์ตั้งแต่เวลานั้นเป็นต้นมา

Old Parliament House 1 Old Parliament Lane, Singapore 179429
ทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.


National Gallery Singapore (หอศิลป์แห่งชาติสิงคโปร์)
อดีตที่ทำการศาลฎีกาของสิงคโปร์

อาคารที่ตั้งของ National Gallery Singapore (หอศิลป์แห่งชาติสิงคโปร์) นี้แต่เดิมเป็นอนุสาวรีย์แห่งชาติสองแห่ง นั่นคือ อดีตที่ทำการศาลฎีกา และศาลาว่าการ (City Hall) ของสิงคโปร์ อาคารทั้งสองหลังตั้งอยู่ใจกลางย่าน Civic District (ซีวิค ดิสทริคท์) และเป็นสถานที่ที่ยืนยันถึงความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของสิงคโปร์ ทั้งอาคารศาลฎีกาเดิมและศาลาว่าการของสิงคโปร์ได้รับการก่อสร้างขึ้นครั้งแรกในทศวรรษ 1920 และ 1930 โดยปัจจุบันเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของสิงคโปร์ ซึ่งรวบรวมผลงานศิลปะที่หลากหลายและจัดแสดงอยู่ในห้องโถงใหญ่ที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์

National Gallery Singapore 1 Supreme Court Lane, Singapore 178879
จันทร์-พฤหัสบดี และอาทิตย์ เวลา 10.00-19.00 น. ศุกร์และเสาร์เวลา 10.00-22.00 น.


Istana

Istana ซึ่งในภาษามาเลย์แปลว่า “พระราชวัง” นี้เป็นที่พำนักที่เป็นทางการและเป็นที่ทำการของประธานาธิบดีสิงคโปร์ สถานที่อันเป็นสัญลักษณ์นี้ยังเป็นที่ที่ประธานาธิบดีต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง และเป็นที่ทำการของนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ด้วย

Istana ตั้งอยู่ในที่ที่เคยเป็นไร่ต้นจันทน์เทศมาก่อนจึงอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธุ์พืชและสัตว์ต่างๆ มากมาย ให้ความร่มรื่นท่ามกลางความวุ่นวายจอแจของเมือง อย่าลืมวางแผนตารางเวลาเดินทางของคุณให้ดีถ้าคุณต้องการจะแวะมาชม Istana เมื่อคุณมาสิงคโปร์ เพราะที่นี่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมเพียงบางวันเท่านั้นในแต่ละปี

Istana Orchard Road, Singapore 238823
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวันและเวลาที่เปิดให้เยี่ยมชมสามารถดูได้ที่นี่


The Fullerton Hotel Singapore (โรงแรมเดอะ ฟูลเลอร์ตัน สิงคโปร์)
ด้านหน้าและทางเข้าโรงแรม The Fullerton Hotel มีต้นปาล์มใหญ่ 2 ต้นประดับเป็นกรอบด้านข้าง

The Fullerton Hotel Singapore (โรงแรมเดอะ ฟูลเลอร์ตัน สิงคโปร์) เป็นโรงแรมระดับห้าดาวที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีมากเพราะมองเห็นแม่น้ำสิงคโปร์ที่สวยงาม แต่นี่ไม่ใช่จุดเด่นเพียงอย่างเดียวของโรงแรมแห่งนี้ ย้อนหลังไปในปี 1829 แต่เดิมอาคารแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นป้อมปราการ และต่อมาในปี 1928 ได้กลายเป็นที่ตั้งของสำนักงานไปรษณีย์กลางของสิงคโปร์ ปัจจุบันโรงแรมอันเป็นมรดกล้ำค่านี้มีห้องพักทั้งสิ้น 400 ห้องซึ่งมีความหรูหราอลังการ และมีประวัติความเป็นมาที่น่าทึ่ง ด้านหน้าโรงแรมเป็นผลงานสถาปัตยกรรมแบบนีโอ-คลาสสิก และมีห้องโถงกลางที่งดงามหรูหราและสว่างไสวอย่างโดดเด่น

The Fullerton Hotel Singapore (โรงแรมเดอะ ฟูลเลอร์ตัน สิงคโปร์) 1 Fullerton Square, Singapore 049178


Helix Bridge (สะพานเฮลิกซ์)
สะพาน Helix โดยมี MBS เป็นฉากหลังพร้อมด้วยแสงดาวเจิดจรัส

Helix Bridge (สะพานเฮลิกซ์) เปิดให้ใช้ครั้งแรกในปี 2010 โดยเป็นสะพานคนเดินที่ยาวที่สุดในสิงคโปร์และเป็นทางเชื่อมพื้นที่ระหว่าง Marina Centre (มารีน่า เซ็นเตอร์) กับ Bayfront (เบย์ฟรอนต์) รูปแบบที่มีเอกลักษณ์ของสะพานนี้เป็นการจำลองแบบมาจากเกลียวคู่ดีเอ็นเอที่สื่อถึง “ชีวิตและความต่อเนื่อง หรือการเกิดใหม่และการเติบโต” นั่นเอง ลองมองหาตัวอักษรคู่ที่เป็นสีๆ คือ ‘c’ และ ‘g’ และ ‘a’ และ ‘t’ บนสะพาน ซึ่งหมายถึงหน่วยย่อยนิวคลีโอไทด์ของสายดีเอ็นเอ อันเป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่น่าสนุกสำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลทางวิทยาศาสตร์

Helix Bridge (สะพานเฮลิกซ์) Bayfront Avenue, Singapore 038981
ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง


Parkview Square
ประติมากรรมที่ชั้นล่างของ Parkview Square

Parkview Square (พาร์ควิว สแควร์) ออกแบบโดย DP Architects ของสิงคโปร์ ร่วมกับ James Adams Design ของสหรัฐอเมริกา และนับเป็นสถานที่ที่มีความโดดเด่นมากเนื่องจากเป็นการออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจจากสไตล์อาร์ต-เดโค่

ด้านนอกของ Parkview Square คือรูปปั้นขนาดใหญ่ที่ทำจากอมัลกัมและมีส่วนผสมของทองสัมฤทธิ์และกระจก รูปแบบสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์นี้จึงทำให้คนสิงคโปร์มักเรียกสถานที่นี้ว่า “อาคาร กอตแธม” ด้านหน้าอาคารแห่งนี้ยังออกแบบให้มีลักษณะคล้ายกับบ้านเกิดของแบตแมนด้วย

การออกแบบภายในสไตล์อาร์ต เดโค่ที่งดงาม จึงสร้างแรงบันดาลใจให้มีบาร์มาเปิดให้บริการในบริเวณล็อบบี้ของอาคาร นั่นคือ Atlas บาร์ที่สวยงามแห่งนี้จำหน่ายเหล้าจินและยังมีเครื่องดื่มหายากและแบบลิมิเต็ดเอดิชั่นหลายร้อยรายการที่สต็อกอยู่ในอาคารสูงสามชั้นที่กินพื้นที่ส่วนใหญ่ของบาร์

อาคาร Parkview Square (พาร์ควิว สแควร์) 600 North Bridge Road สิงคโปร์ 188778
อาคาร: จันทร์ - ศุกร์ เวลา 9.00-18.00 น.
Atlas: จันทร์-พฤหัสบดี เวลา 10.00-01.00 น. ศุกร์ เวลา 10.00-02.00 น. เสาร์ เวลา 15.00-02.00 น.


Cenotaph (อนุสาวรีย์วีรชน)
นักท่องเที่ยวกำลังอ่านรายชื่อบนแผ่นจารึกของทหารหาญที่ได้พลีชีพในสงคราม ซึ่งตั้งอยู่ใน Cenotaph

Cenotaph (อนุสาวรีย์วีรชน) ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางย่านธุรกิจใจกลางเมืองของสิงคโปร์นี้ เป็นอนุสรณ์สถานสงครามโลกที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงทหารหาญชาวอังกฤษจำนวน 124 นายที่ได้ร่วมต่อสู้และเสียชีวิตในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และสงครามโลกครั้งที่ 2 อนุสรณ์สถานแห่งนี้เปิดตัวเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 1922 และตั้งตระหง่านอยู่ใน Esplanade Park (สวนสาธารณะเอสพลานาด) โดยมีแผ่นจารึกข้อความสั้นๆ ที่ฐานว่า “พวกเขาได้สละชีพเพื่อให้เรามีชีวิตรอด”

Cenotaph (อนุสาวรีย์วีรชน) Connaught Drive, Singapore 179682
ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง


Marina Bay Sands®
ภาพ Marina Bay Sands และพิพิธภัณฑ์ ArtScience ในยามโพล้เพล้

Marina Bay Sands® (มารีน่า เบย์ แซนด์ส) เปิดทำการครั้งแรกในปี 2011 และได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายมากที่สุดของสิงคโปร์ ที่นี่มีโรงแรมหรูหราที่สูง 55 ชั้น ซึ่งคุณสามารถเข้าพักอย่างสุขสบาย หรือเดินช้อปปิ้งให้กระหน่ำที่ The Shoppes at Marina Bay Sands® หรือเพลิดเพลินกับผลงานศิลปวัฒนธรรมที่ ArtScience Museum™ (พิพิธภัณฑ์ศิลปะวิทยาศาสตร์)

อาคารสูงเด่นสามหลังของ Marina Bay Sands® และสระว่ายน้ำแบบไร้ขอบที่อยู่สูงเทียมฟ้านั้นมีเรื่องราวความเป็นมาที่น่าสนใจ โดย Tower 1 ของโรงแรมมีความลาดเอียงในระดับ 26 องศา ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของความรุ่งเรืองเนื่องจากเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจากเลข 8 ที่ถือว่าเป็นเลขมงคลในวัฒนธรรมจีน และสระว่ายน้ำไร้ขอบก็เป็นสัญลักษณ์ของความโชคดีดุจดังทะเลสาบที่อยู่บนยอดเขา

Marina Bay Sands® 10 Bayfront Ave, Singapore 01895.10 Bayfront Ave, Singapore 01895