Katong เคยเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยต้นมะพร้าวและเป็นสถานที่พักผ่อนในวันเสาร์-อาทิตย์ของบรรดาคนเมืองที่มีฐานะดี แต่ปัจจุบันได้รับการพัฒนาให้เป็นที่อยู่ย่านชานเมืองมาตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ที่นี่เป็นที่อยู่อาศัยของชนชั้นกลางที่ได้รับการศึกษาแบบอังกฤษและเติบโตขึ้นมา รวมไปถึงชาวเปอรานากันและชาวยูเรเชียน

ย่าน Joo Chiat นี้ได้รับการตั้งชื่อตาม Chew Joo Chiat เจ้าของที่ดินชาวจีนผู้ร่ำรวยในช่วงต้นศตวรรษที่ 20  เอกลักษณ์ของย่านนี้คือ อาคารที่ได้รับการออกแบบอย่างมีเอกลักษณ์ในสไตล์สถาปัตยกรรมช่วงก่อนสงครามโลก โดยเป็นตึกแถวสองชั้นและทาวน์เฮาส์ที่ทาสีสันสดใส โดยออกแบบด้านหน้าให้งดงามหรูหรา มีลวดลายที่สวยงามอ่อนช้อย และตกแต่งด้วยกระเบื้องเซรามิก

*คำในภาษาอินโดนีเซีย/มาเลย์ที่แปลว่า "เกิดในท้องถิ่น" โดยทั่วไปแล้ว หมายถึงชาวจีนเชื้อสายมลายู/อินโดนีเซีย

วัฒนธรรมเปอรานากันที่น่าสนใจ

ไม้ใหญ่ที่รกครึ้มนั้นถูกโค่นไปแล้ว แต่คุณยังสามารถชื่นชมความสวยงามมีชีวิตชีวาของอาคารตึกแถวและบังกะโลสไตล์ยุคอาณานิคมของชาวเปอรานากันที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี พื้นที่เขตนี้อยู่ห่างจากใจกลางเมืองโดยใช้เวลาขับรถเพียง 10 นาทีเท่านั้น

จู เชียต/กาตง แหล่งร้านอาหารที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของสิงคโปร์ และยังเป็นสวรรค์ของชาวสิงคโปร์ส่วนใหญ่อีกด้วย ที่นี่มีทั้งคาเฟ่สวยๆ ทันสมัยที่ตั้งอยู่ติดกับร้านกาแฟโบราณที่ขายมาแต่ดั้งเดิม ซึ่งขาย กาตง หลักซา (ก๋วยเตี๋ยวในแกงกะทิน้ำข้นรสจัดจ้าน) ที่อร่อยขึ้นชื่อ บ๊ะจ่างเปอรานากัน และอาหารท้องถิ่นอื่นๆ ของชาวเปอรานากัน

หากต้องการช้อปปิ้ง แวะซื้อ ชุดเกบาย่า และ โสร่ง ของชาวเปอรานากัน รวมทั้งรองเท้าที่ตกแต่งด้วยลายปักมุกและเครื่องประดับต่างๆ หรือแวะดูของกระจุกกระจิกที่ร้านเล็กๆ ซึ่งขายอุปกรณ์และงานฝีมือของ เปอรานากัน

หากต้องการเดินเที่ยวชมสิ่งต่างๆ ในย่าน Joo Chiat/Katong ให้เต็มอิ่ม คุณต้องใช้เวลามากกว่าสองสามชั่วโมง ดังนั้นเพื่อประสบการณ์การพักผ่อนที่น่าประทับใจ ทำไมไม่แวะเข้าพักที่โรงแรมใดโรงแรมหนึ่งในย่านนี้ล่ะ เลือกโรงแรมที่ ตกแต่งอย่างสวยงามสไตล์เปอรานากัน หรือโรงแรมแบบประหยัดที่ให้ความสะดวกสบาย