ยอดใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสามเท่าเป็น
แหล่งรวม
การพัฒนาของอุตสาหกรรมวิทยาศาสตร์สุขภาพประยุกต์ในสิงคโปร์ สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มของโลกเกี่ยวกับภาคธุรกิจชีวการแพทย์ การดูแลสุขภาพ และเทคนิคการแพทย์ในปัจจุบัน เราอยู่ในสถานะที่พร้อมรับมือกับอุตสาหกรรมวิทยาศาสตร์สุขภาพประยุกต์ที่เปลี่ยนแปลงและพัฒนาอย่างรวดเร็ว ด้วยศักยภาพการผลิตระดับโลก สภาพแวดล้อมที่เอื้อประโยชน์ทางธุรกิจ รวมถึงความมุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมและการวิจัยด้านชีวการแพทย์และสุขภาพ
สิงคโปร์ได้สั่งสมชื่อเสียงของการเป็นศูนย์กลางด้านวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์ในเอเชียมาเป็นเวลาหลายปี และชื่อเสียงนี้เองที่ดึงดูดให้บรรดาบริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ของโลกพากันมาเปิดสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคในสิงคโปร์ แม้ว่าเราจะเป็นประเทศเล็กๆ แต่ 8 ใน 10 ของบริษัทเวชภัณฑ์ชั้นนำของโลกอย่าง Abbott, GlaxoSmithKline, Johnson & Johnson และ Pfizer ต่างก็มีโรงงานผลิตตั้งอยู่ที่นี่
นอกจากความเป็นเลิศด้านการผลิตแล้ว เรายังทุ่มเทความพยายามที่จะพัฒนานวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ ซึ่งจะเห็นได้จากเงินลงทุนจำนวน 4 พันล้านดอลลาร์ที่มอบให้แก่กองทุนวิจัยภาคเอกชน4 ความทุ่มเทนี้ช่วยให้เราสามารถสร้างสรรค์ความล้ำหน้าทางการแพทย์ใหม่ๆ รวมทั้งสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่บริษัทเวชภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งสามารถใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศด้านการวิจัยแบบบูรณาการและครบวงจรของเรา
ปัจจุบัน องค์กรด้านการดูแลสุขภาพและการวิจัยที่มีชื่อเสียงระดับโลกเช่น American Association for Cancer Research, Duke University, Healthcare Information and Management Systems Society และ Joint Commission International (JCI) ต่างก็มีสำนักงานตั้งอยู่ที่นี่
สิงคโปร์กำลังพยายามจะเป็นผู้นำระดับภูมิภาคด้านการวิจัยและการพัฒนาในอุตสาหกรรมเทคนิคการแพทย์ (MedTech) เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของสิงคโปร์ในการก้าวไปสู่ประเทศอัจฉริยะ (Smart Nation) ปัจจุบัน เราเป็นที่ตั้งของสำนักงานของบรรษัทข้ามชาติด้าน MedTech จำนวนมากกว่า 60 แห่ง ซึ่งได้แก่ Becton Dickinson, GE Healthcare และ Thermo Fisher Scientific ที่ต่างก็มาที่นี่เพราะระบบนิเวศด้านการวิจัยและพัฒนาที่เป็นนวัตกรรมของสิงคโปร์ รวมถึงบุคลากรทางวิชาชีพที่มีทักษะขั้นสูง
เพื่อเป็นการตอบสนองต่อสัญญาณเตือนที่ชัดเจนมากขึ้นทุกวัน ให้เตรียมพร้อมรับมือวิกฤติสุขภาพในอนาคต และมีสถานการณ์โควิด-19 เป็นตัวเร่ง Thermo Fisher Scientific จึงตัดสินใจในปี 2020 ที่จะจัดตั้งโรงงานปลอดเชื้อสำหรับผลิตภัณฑ์เพื่อการรักษาและวัคซีนในสิงคโปร์ สิ่งที่จะได้พบในโรงงานแห่งใหม่นี้คือ สายการผลิตความเร็วสูงแบบปลอดเชื้อสำหรับการบรรจุไวรัสเชื้อเป็น ซึ่งถือเป็นการบรรจุในระดับใหญ่เท่านี้เป็นครั้งแรกในสิงคโปร์ เมื่อเดินหน้าเต็มกำลังแล้ว โรงงานแห่งนี้จะสามารถผลิตวัคซีนได้ถึง 30 ล้านโดสต่อเดือนและสร้างงานได้มากกว่า 300 งาน
นอกจากนี้ เรายังมีธุรกิจสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งได้ประโยชน์จากระบบนิเวศทางธุรกิจแบบร่วมมือกันระหว่างรัฐบาลและสถาบันเอกชนเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมเทคนิคการแพทย์ ระบบนิเวศทางธุรกิจสำหรับเทคโนโลยีสุขภาพ (HealthTech) ของสิงคโปร์เป็นแหล่งรวมนักลงทุนมากกว่า 165 ราย หรือคิดเป็น 54% ของเงินลงทุนด้าน HealthTech ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 20195 ตัวอย่างบริษัทสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งสามารถนำเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่สำคัญมาใช้เชิงพาณิชย์และขยายกิจการไปทั่วโลกได้ก็คือ บริษัท Structo ที่เชี่ยวชาญด้านการจัดการด้านเครื่องมือทันตกรรมที่ใช้การพิมพ์แบบ 3 มิติ และ Hello Health Group ที่นำเสนอข้อมูลสุขภาพผู้บริโภคให้แก่ผู้ใช้ 35 ล้านคนทั่วภูมิภาค
นอกจากบรรษัทข้ามชาติและบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคนิคการแพทย์แล้ว สิงคโปร์ยังเป็นประเทศที่น่าสนใจสำหรับบริษัทต่างๆ ที่กำลังมองหาโอกาสทางการตลาดระดับภูมิภาคด้วย เราไม่เพียงแต่เป็นประตูเข้าสู่ตลาดการแพทย์ในภูมิภาคอาเซียนเท่านั้น แต่ยังเป็นเจ้าของข้อตกลงทางธุรกิจด้าน MedTech ที่มีมูลค่าสูงที่สุดเป็นอันดับ 3 ในเอเชีย ซึ่งคิดเป็น 54% ของการลงทุนทั้งหมดของภูมิภาค6 ในอุตสาหกรรมประเภทนี้
นอกจากการสนับสนุนความต้องการของประชากรจำนวน 5.7 ล้านคนของเราแล้ว ระบบการดูแลสุขภาพชั้นนำของสิงคโปร์ยังดึงดูดผู้ป่วยต่างชาติให้เข้ามาในประเทศได้มากถึง 350,000 คนต่อปี7
เราได้ผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มามากมายในช่วง 50 ปี ตั้งแต่เหตุการณ์โรคระบาดหลายครั้งและมีอัตราการเสียชีวิตของประชากรวัยผู้ใหญ่ที่ค่อนข้างสูง 8 จนทำให้เราพัฒนาระบบการดูแลสุขภาพที่ถือได้ว่ามีประสิทธิภาพมากที่สุดระบบหนึ่งในโลก ความสำเร็จนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากนวัตกรรมและแนวทางแบบองค์รวมด้านยาและการดูแลสุขภาพของเรา ซึ่งผู้ป่วยสามารถเข้าถึงและใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ล่าสุดและการพัฒนาตัวยา
เนื่องจากรับรู้ถึงความสำคัญของการร่วมมือกันเพื่อให้บรรลุความก้าวหน้าทางการแพทย์ สิงคโปร์จึงลงทุนอย่างเต็มที่เพื่อสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจที่ซึ่งการค้นพบต่างๆ ในห้องปฏิบัติการสามารถเปลี่ยนเป็นโซลูชันสำหรับผู้ป่วยที่บังเกิดผลในทางปฏิบัติ หนึ่งในตัวอย่างของการร่วมมือกันนี้ คือการสร้าง Experimental Drug Development Centre ซึ่งถือเป็นแพลตฟอร์มระดับชาติเพื่อส่งเสริมผู้มีความสามารถในการพัฒนาตัวยาที่มีศักยภาพสูง ให้สามารถผลิตเพื่อการพาณิชย์ได้ รวมถึง Target Translation Consortiu ที่เป็นศูนย์กลางในการประสานงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการค้นพบยาในระยะเริ่มแรก ตั้งแต่สถาบันการศึกษา สถาบันการดูแลสุขภาพ และหน่วยงานรัฐ
ปัจจุบัน ข้อมูลทางประชากรศาสตร์ของสิงคโปร์คือสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการด้านการดูแลสุขภาพของเอเชียเป็นอย่างมาก และอันที่จริงก็สะท้อนถึงความต้องการและความมุ่งหวังของประชาคมโลกด้วย ประชากรผู้สูงอายุของเราเป็นปัจจัยผลักดันให้เราต้องมองหาโซลูชันที่ช่วยลดความตึงเครียดด้านการใช้ทรัพยากรโรงพยาบาล และทำให้ผู้สูงอายุสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขในที่อยู่ของตัวเอง (Ageing-in-place) หัวข้อการอภิปรายจึงมักเปลี่ยนไปสู่การดูแลสุขภาพเชิงป้องกันและฟื้นฟู รวมถึงเทคโนโลยีต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น เครื่องมือตรวจติดตามทางการแพทย์แบบทางไกล อุปกรณ์อำนวยความสะดวก และบริการดูแลสุขภาพแบบเสมือน
ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมชีวการแพทย์ เทคนิคการแพทย์ หรือการดูแลสุขภาพ ความมุ่งมั่นของสิงคโปร์ที่มีต่อความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพทำให้เราเป็นศูนย์กลางที่สมบูรณ์แบบเพื่อบรรดาผู้นำทางความคิด สถาบัน บริษัท สตาร์ทอัพ และองค์กรด้านการวิจัยได้มาจับมือร่วมเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่ง และเพื่อจัดงานกิจกรรมที่ส่งเสริมความก้าวหน้าและการเป็นผู้นำทางความคิดที่จะกำหนดอนาคตของวงการวิทยาศาสตร์สุขภาพต่อไป
สิงคโปร์เป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมและงานแสดงด้านชีวการแพทย์และการดูแลสุขภาพมาแล้วมากมาย ทำให้เรามีความชำนาญและประสบการณ์ที่จำเป็นต่อการจัดงานกิจกรรมให้คุณ
หนึ่งในงานจัดแสดงที่มีมาอย่างยาวนานในเอเชียโดยมีมาตั้งแต่ปี 1997 นี่คืองานกิจกรรมที่สมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับบรรดาผู้ประกอบวิชาชีพในอุตสาหกรรมการแพทย์และการดูแลสุขภาพ ซึ่งหมายรวมถึงผู้ผลิต ซัพพลายเออร์ ผู้จัดจำหน่าย และนักลงทุนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการดูแลสุขภาพ งานจัดแสดงนี้มีผู้เข้าร่วมงานที่มาจากประเทศต่างๆ กว่า 90 ประเทศ ถือเป็นศูนย์กลางการนัดพบสำหรับมืออาชีพด้านการค้าเพื่อมาชมนวัตกรรมล้ำสมัยและเรียนรู้เกี่ยวกับแนวโน้มในปัจจุบันและในอนาคตของอุตสาหกรรม งานจัดแสดงที่จัดขึ้นแบบดิจิทัลเป็นครั้งแรกในปี 2020 ดึงดูดผู้เข้าร่วมงานได้มากกว่า 8,500 คนและมีผู้จัดงานเข้าร่วม 345 รายจาก 38 ประเทศที่มาจัดแสดงผลิตภัณฑ์มากกว่า 3,000 รายการ
งานกิจกรรมที่จัดโดย International Society for Pharmaceutical Engineering (ISPE) โดยเป็นหนึ่งในงานที่ใหญ่ที่สุดและเป็นงานจัดแสดงทางการค้าที่น่าเชื่อถือมากที่สุดในสิงคโปร์สำหรับผู้ประกอบอาชีพในแวดวงเวชภัณฑ์และการผลิตทางชีวภาพ งานกิจกรรมนี้ดึงดูดวิทยากรและผู้เข้าร่วมงานจาก 25 ประเทศ ทั้งจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและที่อื่นๆ
เวทีด้านการดูแลสุขภาพที่เกิดจากความร่วมมือกันที่สำคัญงานนี้ทำให้สถาบันด้านการดูแลสุขภาพ ผู้ส่งเสริมเทคโนโลยี ผู้ที่มองเห็นโอกาสและผู้คิดค้นนวัตกรรม นักวิจัย เจ้าหน้าที่กำกับดูแลและนักวิชาการ ได้มาพูดคุยกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและเพื่อร่วมกันพัฒนาโซลูชันสำหรับผู้ป่วยโดยเฉพาะ
นิทรรศการและการประชุมทางทันตกรรมชั้นนำของเอเชียแปซิฟิก งานกิจกรรมแบบเสมือนนี้สามารถดึงดูดผู้เข้าร่วมงานได้ถึง 3,615 คนจาก 54 ประเทศ และมีผู้จัดงาน 304 รายจาก 36 ประเทศในปี 2020
APACMed มีผู้เข้าร่วมมากมายไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตและซัพพลายเออร์อุปกรณ์ทางการแพทย์ เครื่องมือ และการวินิจฉัยในห้องปฏิบัติการ สมาคมอุตสาหกรรม และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญๆ ในอุตสาหกรรม MedTech ในปี 2020 เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 งาน APACMed จึงจัดขึ้นในรูปแบบเสมือนเป็นครั้งแรก และมีผู้เข้าร่วมงานเกือบ 1.500 คน ซึ่งถือเป็นจำนวนผู้เข้าร่วมงานที่สูงที่สุดของประวัติศาสตร์การจัดงาน
การร่วมมือกันครั้งแรกของธุรกิจเกี่ยวกับผู้สูงอายุในเอเชียแปซิฟิก นี่คือเวทีสำหรับธุรกิจด้านผู้สูงวัยที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในภูมิภาคนี้ และสามารถดึงดูดภาคเอกชน ภาครัฐ และชุมชนจากทั่วโลกให้มาเข้าร่วมงาน
3 https://www.trade.gov/country-commercial-guides/singapore-healthcare
4 https://www.edb.gov.sg/en/our-industries/pharmaceuticals-and-biotechnology.html
6 https://www.businesstimes.com.sg/garage/s-e-asia-healthtech-investments-more-than-double-in-2019
7 https://www.trade.gov/country-commercial-guides/singapore-healthcare
8 https://www.moh.gov.sg/resources-statistics/information-paper/trend-in-adult-mortality-in-singapore