วันที่ 1: มาออกกำลังกายกัน

Ritual Gym
1

ออกกำลังกายให้เหงื่อชุ่ม

แม้ว่าคุณจะไม่สามารถยกดัมเบลได้ในระหว่างเดินทาง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่สามารถออกกำลังกายได้เลย นักท่องเที่ยวที่มีโปรแกรมเที่ยวแน่นเอี้ยดแต่ยังหวังว่าจะมีเวลาออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่โดยอิสระ ก็สามารถมาใช้เวลาช่วงเช้าที่ Ritual Gym

สถานที่ออกกำลังกายแห่งนี้มีตารางการออกกำลังกายที่วางแผนมาอย่างดีสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการใช้เวลาสั้นๆ เพื่อออกกำลังกายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยกิจกรรมอุ่นร่างกาย ออกกำลังกายเรียกเหงื่อ และอาบน้ำ ทั้งหมดนี้ใช้เวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น

ยิมแห่งนี้ยังเปิดคลาสเล็กๆ ที่มีผู้เข้าร่วมไม่เกิน 10 คนและเป็นการออกกำลังกายแบบไดนามิกที่ผสมผสานคาร์ดิโอเข้ากับการฝึกฝนกล้ามเนื้อ เหมาะสำหรับทั้งผู้ที่เพิ่งเริ่มออกกำลังกายและนักกีฬาที่รักการออกกำลังกาย

ด้านนอกของประตูทางเข้าป้อมปราการที่ Fort Canning
2 สวนสาธารณะฟอร์ทแคนนิง (Fort Canning Park)

สำรวจธรรมชาติและประวัติศาสตร์

เชิญใช้เวลาที่เหลือของช่วงเช้าในการเดินเที่ยวชมธรรมชาติและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ได้ที่ Fort Canning Park ซึ่งมีทางเดินเล็กๆ ที่เงียบสงบ Fort Canning Park ซึ่งแต่เดิมรู้จักกันในนามเนินเข้าต้องห้าม (Forbidden Hill) นี้เต็มไปด้วยไม้ใหญ่ร่มรื่นและจุดเที่ยวชมที่มีความเป็นมาเก่าแก่ จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง

ในอดีต กษัตริย์สมัยโบราณของสิงคโปร์เคยปกครองดินแดนบริเวณนี้หรือที่เรียกว่า Bukit Larangan (บูกิต ลารางกาน หรือเนินเขาต้องห้าม) ต่อมาสถานที่แห่งนี้ยังเป็นที่อยู่อาศัยของบรรดาผู้นำในยุคอาณานิคม และได้มีการเปลี่ยนชื่อสถานที่เป็นเนินเขาของผู้ว่าการ (Governors’ Hill) และต่อมาก็ได้เป็นที่พำนักของบรรดารัฐมนตรีของสิงคโปร์

นอกจากนี้ Fort Canning Park ยังเป็นแหล่งรวมสมุนไพรและพืชผักสวนครัวมากมายซึ่งเป็นส่วนผสมหลักในอาหารของคนสิงคโปร์ บรรดานักชิมที่มาเยี่ยมชมย่อมอยากจะมาเห็นต้นจันทน์เทศ ต้นกระวาน และพริกไทยป่าในขณะที่เดินชมพื้นที่ที่เงียบสงบร่มรื่น

เชฟสองคนกำลังแต่งจานในครัวของร้าน Labyrinth
3 Labyrinth

อร่อยกับอาหารกลางวันที่ปรุงจากวัตถุดิบท้องถิ่น

สำหรับมื้อกลางวัน ชวนคุณไปทานอาหารอร่อยๆ ที่ปรงุจากวัตถุดิบสดใหม่ของท้องถิ่นที่ร้าน Labyrinth ร้านอาหารระดับดาวมิชลินที่อยู่ภายใต้การดูแลของ Han Li Guang เชฟที่เป็นเจ้าของและชอบปรุงอาหารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่ให้รสชาติอร่อยเช่นเดิม โดยกว่า 80% ของวัตถุดิบที่นำมาปรุงอาหารนั้นมาจากผลผลิตในท้องถิ่น

อาหารที่นี่เป็นแบบ “อาหารสิงคโปร์สมัยใหม่” ที่มีการนำเสนออาหารท้องถิ่นรสชาติต้นตำรับในรูปแบบใหม่ๆ ที่มีนวัตกรรม เมนูอาหารกลางวันของที่นี่ ได้แก่ อาหารสุดโปรดของคนสิงคโปร์ที่นำมาปรับปรุงใหม่เพื่อเพิ่มความน่าประหลาดใจ เช่น โรตีปราตา (ขนมปังแผ่นแบนของอินเดียใต้) รับประทานกับเห็ดทรัฟเฟิลดำและโอตัก-โอตัก (ห่อหมกมลายู) ที่ทำจากเม่นทะเลแทนที่จะเป็นปลาแมกเคอเรล

ผู้ชายกำลังปีนหน้าผาเทียมที่ Funan
4

เพลิดเพลินกับแหล่งช้อปปิ้งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

Funan ไม่ใช่แค่สวรรค์สำหรับผู้ที่หลงใหลในเทคโนโลยีและผู้ที่ชื่นชอบแผ่นเสียงเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่น่าสนใจโดยมีร้านค้าปลีกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากมาย รวมทั้งกิจกรรมออกกำลังกายสนุกๆ

คุณสามารถเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงด้วยกิจกรรมปีนเขาที่ Climb Central หรือผ่อนคลายกับเซสชั่นโยคะที่ TFX Fitness หรือเพียงแค่เดินเล่นในบรรยากาศเงียบๆ ผ่อนคลายที่ชั้นรูฟท็อปของห้างสรรพสินค้า

บรรดานักช้อปที่รักษาสิ่งแวดล้อมควรแวะไปที่ The Green Collective ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ที่ทำจากพืช เครื่องใช้ในบ้านจากวัสดุรีไซเคิลและชุดเครื่องมือทำสวนสำหรับมือใหม่ปลูกต้นไม้

วันที่ 2: สร้างสมดุลภายใน

ภาพมุมกว้างของ Gardens by the Bay
5 Gardens by the Bay (การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์)

สำรวจความงามของธรรมชาติ

พบกับสวนสวยน่าทึ่งท่ามกลางเมืองใหญ่อันวุ่นวายได้ที่ Gardens by the Bay สวนสาธารณะที่ร่มรื่นและมีพื้นที่ 101 เอเคอร์นี้ประกอบด้วยสวนสวย 3 จุดที่คุณสามารถเที่ยวชมได้อย่างเพลิดเพลิน

ที่มาของการวางผังสถานที่ Gardens by the Bay ก็คือความมุ่งมั่นที่จะออกแบบสวนที่ยั่งยืน หากต้องการสัมผัสกับความงามอันน่าทึ่งที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความยั่งยืน เชิญคุณไปเยี่ยมชม Bay South Gardens (เบย์เซาท์การ์เดน) ที่นำพืชผักเหลือทิ้งมาทำเป็นปุ๋ยสำหรับพืชพรรณและพันธุ์ไม้ตัดแต่งต่างๆ รวมทั้งยังนำมาเป็นแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้าสำหรับสถานที่ต่างๆ และเรือนกระจกอีกด้วย

ขณะที่จุดต่างๆ ในบริเวณซูเปอร์ทรี ต้นไม้ขนาดมหึมาที่เป็นสัญลักษณ์ของสวนแห่งนี้ ก็ได้รับการตกแต่งด้วยโซลาร์เซลล์ที่บริเวณหลังคาเพื่อการควบคุมพลังงานแสงอาทิตย์ หรือทำหน้าที่เป็นจุดรับอากาศเสีย

หากคุณต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับพันธุ์พืชต่างๆ จากทั่วโลก เราขอแนะนำให้คุณแวะไปที่ Flower Dome (ฟลาวเวอร์โดม) ที่จัดแสดงพันธุ์ไม้และดอกไม้จากห้าทวี และประกอบด้วยสวนแบบต่างๆ ถึง 9 แบบด้วยกัน

หรือคุณอาจมุ่งหน้าไปที่ Heritage Gardens (เฮอริเทจการ์เดนส์) และเรียนรู้ว่าธรรมชาติ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์นั้นมีความเกี่ยวข้องกันอย่างแนบแน่นอย่างไร สวนภายใต้ธีมเฉพาะ 4 แห่งล้วนมีพันธุ์ไม้และดอกไม้แปลกๆ ที่บอกเล่าเรื่องราวในอดีตของสิงคโปร์ทั้งสิ้น

Freedom Yoga
6

ประสานร่างกายและจิตใจให้เป็นหนึ่งเดียว

ใช้เวลาช่วงบ่ายแก่ๆ ในการทำให้จิตใจสงบพร้อมกับเคลื่อนไหวร่างกายอย่างนุ่มนวลกันที่ Freedom Yoga สตูดิโอโยคะแห่งนี้ตั้งอยู่ริมถนน River Valley Road (ถนนริเวอร์ วัลเลย์) และเหมาะจะเป็นโอเอซิสสำหรับคุณในการพักผ่อนฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ

สตูดิโอแห่งนี้มีคลาสโยคะแบบต่างๆ ตั้งแต่ขั้นพื้นฐานไปจนถึงพาวเวอร์โยคะที่เรียกเหงื่อได้ดีทีเดียว หากคุณกำลังมองหากิจกรรมฟื้นฟูความมีชีวิตชีวาของร่างกายและจิตใจ ลองเลือกคลาส Forrest & Meditation ที่เป็นการฝึกหฐโยคะระยะเวลา 75 นาที ซึ่งผสานรวมการฝึกโยคะระดับกลางเข้ากับการทำสมาธิแบบมีผู้สอน

อาหารจานหลักในเมนูของ Artichoke ได้แก่ กุ้งกระทะร้อน
7

รับประทานอาหารเย็นแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

สำหรับมื้อเย็น เชิญแวะไปที่ร้าน Artichoke ที่เสิร์ฟอาหารฟิวชั่น ในบรรยากาศสนุกสนาน และเป็นอาหารที่ได้มาจากแหล่งวัตถุดิบที่ส่งเสริมระบบนิเวศ ร้าน Artichoke อยู่ภายใต้การดูแลของเชฟชาวสิงคโปร์ Bjorn Shen โดยมีอาหารหลากหลายให้เลือกซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากอาหารตะวันออกกลาง อาทิ ฮัมมูส หรืออาหารเบาๆ เช่น เห็ดชวาร์มา และอาหารจานเนื้อ เช่น หัวไหล่แกะอบกับซอสมินท์

อาหารหลายอย่างของทางร้านได้มาจากวัตถุดิบที่มาจากท้องถิ่น จึงมอบรสชาติที่สดใหม่แสนอร่อย และดีต่อธรรมชาติอีกด้วย

สิ่งอื่นๆ

ที่น่าลอง