รูปปั้น Merlion ที่พ่นน้ำลงในแม่น้ำสิงคโปร์

ถ่ายภาพโดย Andrew Tan

บรรดานักท่องเที่ยวที่คุ้นเคยกับสิงคโปร์ดี คงจะรู้จักรูปปั้นที่เป็นสัญลักษณ์ประจำชาติของเราแล้ว นั่นคือ เมอร์ไลออน (Merlion) ที่เป็นตำนาน ซึ่งมีหัวเป็นสิงโตและลำตัวเป็นปลา

หนึ่งในสัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของสิงคโปร์ก็คือ รูปปั้นที่ตั้งอยู่ที่ Merlion Park (เมอร์ไลออน พาร์ค) โดยตั้งอยู่ใกล้ปากแม่น้ำสิงคโปร์

ก่อนที่คุณจะแวะไปเยี่ยมชมสถานที่อันงดงามนี้ คุณอาจจะต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความหมายเบื้องหลังสัญลักษณ์ของเมอร์ไลออน และความเกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์ของสิงคโปร์

เรื่องราวของปลา
ภาพยามค่ำคืนเมื่อนักท่องเที่ยวกำลังถ่ายรูปและให้รูปปั้น Merlion เป็นฉากหลัง

ถ่ายภาพโดย Yik Keat ©

หมู่บ้านชาวประมงและแดนสิงโต

เดอะ เมอร์ไลออนซึ่งหัวเป็นสิงโตและลำตัวเป็นปลา คือเรื่องเล่าที่ลึกซึ้งกว่ารูปลักษณ์ที่ปรากฏ (รูปปั้นหิน)

ลำตัวที่คล้ายปลาของเมอร์ไลออนสื่อความหมายถึง จุดกำเนิดของสิงคโปร์ ที่เคยเป็นหมู่บ้านชาวประมง หรือเรียกว่าเทมาเส็ก ชื่อนี้มาจากรากศัพท์เดียวกันกับคำว่า ทาสิก (หรือ “ทะเลสาบ” ในภาษามาเลย์)

ส่วนหัวของรูปปั้นนี้สื่อความหมายถึงชื่อเดิมของสิงคโปร์ นั่นคือสิงหปุระ (หรือแดนสิงโตในภาษาสันสกฤต) ตามตำนานเล่าว่า เจ้าชายแสง นิลา อุตามา (เจ้าชายอาณาจักรศรีวิชัยแห่งปาเลมบัง) ได้มาขึ้นฝั่งที่เกาะสิงคโปร์ท่ามกลางกระแสคลื่นที่ปั่นป่วน

และตรงบริเวณใกล้ปากแม่น้ำสิงคโปร์นั้นเองที่เจ้าชายพบเห็นสัตว์รูปร่างแปลกประหลาด ซึ่งพระองค์คิดว่าดูคล้ายสิงโต ดังนั้นจึงตั้งชื่อเกาะนี้ว่าสิงหปุระ

นั่นก็คือเรื่องราวอันเป็นที่มาของอนุสาวรีย์แห่งนี้

วันนี้ คุณคงสังเกตเห็นความเป็นมาของตำนานนี้ ที่กอปรกันขึ้นเป็นรูปปั้น ณ Merlion Park

รูปปั้นเมอร์ไลออนสูง 8.6 เมตร หนัก 70 ตัน และพ่นน้ำออกมาอยู่เสมอ รูปปั้นเมอร์ไลออนที่เดิมตั้งอยู่ปากแม่น้ำสิงคโปร์นี้ สร้างขึ้นโดยช่างฝีมือชาวสิงคโปร์ที่ชื่อ ลิม นัง เส็ง (Lim Nang Seng) จากการออกแบบโดยควัน ไซ เคียง (Kwan Sai Kheong) และได้รับการเปิดตัวเมื่อวันที่ 15 กันยายน ปี 1972 โดยท่านอดีตนายกรัฐมนตรี ลี กวนยู ผู้ล่วงลับไปแล้ว

แต่เมื่อสะพาน Esplanade Bridge (สะพานเอสพลานาด) สร้างเสร็จในปี 1997 ก็ทำให้รูปปั้นนี้ไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากบริเวณริมน้ำได้อีกต่อไป จึงมีการย้ายรูปปั้นเมอร์ไลออนมายัง Merlion Park ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าโรงแรม Fullerton Hotel (ฟุลเลอร์ตัน) และมองไปเห็น Marina Bay (อ่าวมารีน่า)

ขณะที่คุณเดินทางข้ามเกาะ คุณจะสังเกตเห็นรูปปั้นอื่นๆ ที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศสิงคโปร์ ซึ่งจุดประกายแรงบันดาลใจให้แก่นักเดินทาง กวี และคนสิงคโปร์ทั่วไปเช่นกัน

รู้หรือไม่

เดอะ เมอร์ไลออน ได้เป็นหัวข้อของกวีนิพนธ์จำนวนมากที่แต่งโดยนักเขียนสิงคโปร์ เช่น Ulysses by the Merlion ที่แต่งโดย Edwin Thumboo กวีชาวสิงคโปร์ที่มีชื่อเสียง ซึ่งได้จินตนาการถึงความน่ามหัศจรรย์เมื่อโอดิสซูส วีรบุรุษชาวกรีกในตำนาน มองเห็นเมอร์ไลออน

การเคลื่อนย้าย

แต่เมื่อ Esplanade Bridge (สะพานเอสพลานาด) สร้างเสร็จในปี 1997 รูปปั้นนี้ก็ไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากริมน้ำอีกต่อไป

ดังนั้น ในปี 2002 จึงมีการย้ายเมอร์ไลออนออกไป 120 เมตรจากตำแหน่งเดิม มาไว้ยังตำแหน่งที่ตั้งอยู่ในปัจจุบันในเมอร์ไลออน พาร์ค ข้างหน้าโรงแรมฟุลเลอร์ตัน (Fullerton Hotel) และอยู่เหนืออ่าวมารีน่า เบย์

สวนนี้ยังเป็นที่ตั้งของรูปปั้นเมอร์ไลออนที่เล็กกว่า ซึ่งเรียกว่า “Merlion Cub (ลูกเมอร์ไลออน)” โดยสูงสองเมตรและหนักสามตัน

รูปปั้นดั้งเดิมและตัวลูกเป็นสัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดในบรรดารูปปั้นเมอร์ไลออนที่ได้รับอนุญาตทั้งหมด 5 ตัวในสิงคโปร์

ลองดูซิว่าคุณสามารถค้นหา Merlion อื่นๆ ที่เหลือพบหรือไม่ในการเดินทางครั้งนี้ โดยมีตัวหนึ่งที่ Tourism Court (สำนักงานการท่องเที่ยวสิงคโปร์) ใกล้ถนน Grange Road (ถนนแกรนจ์) และอีกตัวที่ Mount Faber (เมาท์เฟเบอร์)