วันฉลองการสิ้นสุดเดือนรอมฎอนอันศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาอิสลามคือวันตรุษอีด (Eid) ซึ่งในสิงคโปร์เรียกว่าวันฮารีรายอ อีดิลฟิตรี หรือวันฮารีรายอ ปัวซา เดือนรอมฎอนเป็นช่วงเวลาแห่งการสำนึกผิดอย่างจริงจังสำหรับชาวมุสลิม โดยมีการอดอาหารตั้งแต่รุ่งสางจนถึงพลบค่ำเป็นเวลา 30 วันโดยประมาณ ผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามยังอุทิศเวลาส่วนใหญ่ของเดือนนี้ไปกับการบูชาองค์อัลเลาะห์ การให้ทาน และงานสาธารณกุศลต่าง ๆ รวมไปถึงการกระทำที่แสดงถึงเมตตาธรรมต่อเพื่อนมนุษย์

การประดับตกแต่งไฟในเทศกาลฮารีรายอ
เพลิดเพลินกับแสงไฟและงานออกร้านขายของใน Geylang Serai Ramadan Bazaar (เกลัง เซอไร รอมฎอน บาซาร์) ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี

เมื่อสิ้นสุดการถือศีลอดแล้วก็จะเป็นวันฮารีรายอ นักท่องเที่ยวควรแวะไปที่ Geylang Serai (เกลัง เซอไร) เพื่อชมการตกแต่งประดับประดาแสงไฟที่งดงามตั้งแต่วันที่ 19 เมษายนถึง 7 มิถุนายน 2020 ปกติแล้วงานเฉลิมฉลองนี้จะจัดขึ้นตลอดแนวถนน Sims Avenue (ซิมส์อะเวนิว) และ Changi Road (ถนนชางงี) ซึ่งอยู่ระหว่างสถานี Paya Lebar (พายา เลบาร์) และสถานี Eunos (อูโนส) ของรถไฟฟ้า MRT นอกจากงานฉลองแล้ว ยังมีตลาดนัดและโปรแกรมกิจกรรมทางวัฒนธรรมที่จัดขึ้นทุกสัปดาห์ โดยนักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมเพื่อสัมผัสบรรยากาศรื่นเริงสนุกสนาน

การพินิจใคร่ครวญและการเฉลิมฉลอง
วันฮารีรายอ อีดิลฟิตรี ในสิงคโปร์มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า วันตรุษอีด (Eid)

ครอบครัวชาวมาเลย์จำนวนมากในสิงคโปร์ จะสวมเสื้อผ้าใหม่ในโทนสีเดียวกัน กล่าวคือ ผู้ชายจะสวมเสื้อเชิ้ตหลวม ๆ และนุ่งกางเกงที่เรียกว่า “บาจู มลายู” ส่วนผู้หญิงจะสวมชุด “บาจู กุรุง” ซึ่งเป็นชุดเสื้อ-กระโปรงยาวทรงหลวม

วันฮารีรายอจะเริ่มต้นด้วยการไปมัสยิด ซึ่งจะมีการสวดมนต์ด้วยบทสวดพิเศษสำหรับวันสำคัญนี้ หลังจากนั้นจึงเดินทางไปเยี่ยมพ่อแม่ โดยตามธรรมเนียมดั้งเดิม ชาวมุสลิมจะกล่าวขออภัยจากผู้ที่อาวุโสกว่าเพื่อให้ยกโทษในสิ่งที่ตนได้กระทำผิดไปในรอบปีที่ผ่านมา จากนั้นจึงค่อยเดินสายไปเยี่ยมญาติสนิทมิตรสหาย ซึ่งมีการเตรียมอาหารการกินเอาไว้ต้อนรับแขก

ของกินแสนอร่อย
เทศกาลฮารีรายอ อีดิลฟิตรีในสิงคโปร์ยิ่งสนุกสนานรื่นเริงมากขึ้นเมื่อมีงานออกร้านที่มาจำหน่ายอาหารพื้นบ้านมาเลย์รสเลิศ

หากโชคดีได้รับเชิญไปร่วมทานอาหารเฉลิมฉลองวันฮารีรายอ คุณจะพบว่ามีอาหารต่างๆ มากมายเตรียมไว้รอเสิร์ฟ อาทิเช่น เร็นดังเนื้อ (แกงเนื้อรสเผ็ด), แกงซายูร์โลเดะฮ์ (แกงผักชวา) และ ซัมบัล (น้ำพริก) รับประทานคู่กับข้าวสวย และ ขนมเกอตูปัต (คล้ายขนมข้าวต้มใบกะพ้อของไทย)

ของหวานที่อร่อยมากๆ ก็เช่น ขนมกูเอห์ (ขนมหวานขนาดพอดีคำ) ลองชิม “ออนเดะห์-ออนเดะห์” (คล้ายขนมต้มของไทย) ที่เคี้ยวหนึบหนับพร้อมไส้น้ำตาลปึกนุ่มเหนียวหอมมัน หรือ “ปูตู ปิริง” (คล้ายขนมไส่ไส้ของไทย)

สีสันอันเจิดจ้า
ลูกค้าผู้หญิงกำลังเลือกซื้อผ้าสำหรับตัดเย็บ “ชุดบาจูกุรุง”

ไฮไลท์อีกอย่างของวันฮารีรายอ อีดิลฟิตรีก็คือ การได้ชมสตรีชาวมาเลย์สวมชุด “บาจู กุรุง” ที่สวยที่สุด ซึ่งบางครั้งก็ประดับด้วยผ้าคลุมศีรษะ (“ตูดุง”) ที่เข้าชุดกัน ด้วยสีสันที่สดใส ลวดลายที่มีชีวิตชีวา และฝีมือการเย็บอันประณีตตลอดแนวคอปกเสื้อของชุดบาจู ซึ่งทำจากผ้าไหมหรือผ้าบาติกย้อมมือ จึงทำให้ชุดพื้นเมืองนี้ดูงดงามเสียจนทุกคนมองอย่างชื่นชม ชุดประจำชาติมาเลย์นี้ยังคงมีการสวมใส่กันมาจนถึงทุกวันนี้ เนื่องจากสวมใส่สบายและเหมาะกับภูมิอากาศแบบอบอุ่นของสิงคโปร์