วันที่ 1: Orchard Road

นักช้อปนอกร้าน Emporio Armani ที่ศูนย์การค้า Mandarin Gallery ในยามค่ำ
1 Orchard Road (ถนนออร์ชาร์ด)

สวรรค์สำหรับนักช้อปที่มีชื่อเสียงระดับโลก สิงคโปร์ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่เป็นมิตรกับธุรกิจมากที่สุดในโลก ซึ่งดึงดูดทั้งแบรนด์ต่างประเทศและดีไซน์เนอร์ท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงให้มาตั้งร้านในมหานครแห่งธุรกิจนี้ นักช้อปจะเห็นประวัติศาสตร์ของเมืองและอิทธิพลของดีไซน์เนอร์ได้จากสินค้าท้องถิ่นของสิงคโปร์ที่มีมากมายนับไม่ถ้วน

ในสิงคโปร์ซึ่งเป็นประเทศที่เน้นการให้บริการโดยมีห้างค้าปลีกที่มอบประสบการณ์แบบองค์รวม สินค้าและบริการจำนวนมากนี้ทำให้นักสะสมได้ประจักษ์ว่าความหลากหลายทางวัฒนธรรมทำให้สิงคโปร์เป็นเบ้าหลอมที่น่าอัศจรรย์

หนึ่งในย่านช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกคือ Orchard Road ซึ่งค่อยๆ พัฒนาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีทางเลือกและประสบการณ์อันหลากหลายให้นักช้อปได้สัมผัส มีห้างสรรพสินค้าแห่งใหม่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น เลขที่ 268 Orchard Road 

เด็กผู้หญิงใส่หมวกสีชมพูผสมสีขาวนวลและแจ็กเก็ตผ้าเดนิมกำลังโพสท่า
2 Surrender

Surrender ซึ่งเป็นเรื่องราวความสำเร็จของคนสิงคโปร์นั้นเป็นแนวความคิดของ Earn Chen ที่ฝันที่จะก่อตั้งร้านเสื้อผ้าอิสระหลากหลายแบรนด์ในสิงคโปร์ และความฝันนั้นได้กลายเป็นความจริงเมื่อสองทศวรรษที่ผ่านมา

ปัจจุบัน บูติคแห่งนี้ได้เปิดตัวแบรนด์ดาวรุ่งอย่าง Fxxking Rabbits และ Fear of God แก่ชุมชนแฟชั่นที่กำลังเฟื่องฟูของสิงคโปร์

Surrender ตั้งอยู่เลขที่ 268 Orchard Road โดยมีเสื้อผ้าแบรนด์ของญี่ปุ่น Christian Dada และแบรนด์จากอเมริกา Off-White ทำให้นักสะสมสามารถเปลี่ยนลุคของตนให้โฉบเฉี่ยวที่สุดได้ตามแฟชั่นในปัจจุบัน

ภาพของห้าง TANGS ยามค่ำคืนจากถนนฝั่งตรงข้าม
3 ห้างแทงส์ (Tangs)

ห่างจาก Orchard Road ไปเล็กน้อย มีห้าง TANGS (ห้างแทงส์) ซึ่งยังคงรักษาชื่อแบบท้องถิ่นอยู่ในสิงคโปร์ ตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง ห้าง TANGS ตั้งอยู่ภายในอาคารที่สร้างขึ้นตามแบบจีนใจกลางถนนสายนี้ โดยเป็นผู้สนับสนุนดีไซน์เนอร์รุ่นใหม่ไฟแรงของท้องถิ่น เช่น Aijek ซึ่งมีเสื้อผ้าแบบไฮสตรีท ราคาที่ซื้อได้ และ In Good Company ซึ่งขยายจากแบรนด์เครื่องประดับไปเป็นผู้จัดหาเสื้อผ้าระดับสากลแบบเต็มตัว

บุคคลอื่นๆ ที่มีชื่อเสียงซึ่งยกระดับวงการแฟชั่นของสิงคโปร์ ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญด้านสตรีทแวร์ Mark Ong จากร้าน SBTG และดีไซน์เนอร์เสื้อผ้าผู้หญิงที่ได้รับรางวัล Priscilla Shunmugam จากร้าน Ong Shunmugam ซึ่งคุณสามารถเลือกซื้อผลงานสร้างสรรค์ได้จากร้านที่ตั้งอยู่ในย่าน Haji Lane (ฮาจิ เลน) และ Holland Village (ฮอลแลนด์ วิลเลจ) ตามลำดับ

กล่าวกันว่าผู้ก่อตั้งย่านช้อปปิ้งบน Orchard Road คือ Tang Choon Keng ที่เดินทางจากจีนมาสิงคโปร์ในปี 1923 โดยมีเพียงหีบสองใบใส่ผ้าลินินและผ้าลูกไม้ Tang เร่ขายสินค้าตามบ้านด้วยความอุตสาหะจนกระทั่งเขาสามารถตั้งร้านของตนเอง หลังสงครามโลกครั้งที่สอง Tang ตั้งร้าน ‘House of Tang’ แห่งที่สามบน Scotts Road (ถนนสก็อตต์) ซึ่งจุดประกายการเปลี่ยนแปลงให้ Orchard Road กลายเป็นพื้นที่ของห้างค้าปลีกระดับโลก

เดินตามรอยคนสิงคโปร์ ด้วยการเลือกรองเท้าจากร้านรองเท้าท้องถิ่น Charles & Keith และ Pedro สาขาที่มีอยู่หลายแห่งในใจกลางเมืองนั้นเต็มไปด้วยนักช้อปทุกวัน และความสำเร็จครั้งใหญ่ของแบรนด์เหล่านี้นำไปสู่การเปิดสาขาอีกหลายแห่งทั่วสิงคโปร์ ทั่วโลก หรือแม้แต่ทางออนไลน์

ภาพเงาของคู่รักที่เดินลงบันไดนอกห้าง Paragon ในยามค่ำคืน
4 พารากอน (Paragon)

Paragon ห้างสรรพสินค้าหรูหราอายุสองทศวรรษแห่งนี้เปิดโอกาสให้นักสะสมไฟแรงได้เพลิดเพลินไปกับแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดของโลก ขณะที่ศูนย์การค้า ION Orchard จูงใจให้นักสะสมเดินตามทางที่มีร้านเรียงรายอยู่สองข้างทางทั้งใต้ดินและเหนือพื้นดิน โดยมีของสะสมราคามาตรฐานที่หลายคนอยากไขว่คว้ามาเป็นเจ้าของ

วันที่ 2: Civic District (ซีวิค ดิสทริคท์)

หญิงสาวในชุดเดรสสีขาวของ Sabrina Goh
1 Capitol Theatre

คนสิงคโปร์เคยไปรวมตัวกันที่ Capitol Theatre (โรงละครแคปิตอล) ซึ่งกลับมามีชีวิตชีวาในปี 2015 โดยมีร้านเสื้อผ้าเก๋ๆ เรียงรายรอบโรงละครแนววินเทจที่ได้รับการซ่อมแซม

คาเฟ่ที่ตกแต่งอย่างร้าน Angelina และร้าน 1933 by Toast Box เป็นส่วนเติมเต็มให้ศูนย์การค้า Capitol Piazza สมบูรณ์แบบ ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้เชิญชวนให้ผู้มาเยือนเพิ่มเสื้อผ้าในตู้ด้วยผลงานสร้างสรรค์ที่น่าประทับใจจากแบรนด์ท้องถิ่นอย่าง Elohim by Sabrina Goh และ Benjamin Barker ศูนย์การค้าแห่งนี้ตั้งอยู่ใน Civic District ซึ่งได้รับการอนุมัติจากอดีตผู้ปกครองในยุคโคโลเนียลของสิงคโปร์ให้เป็นศูนย์กลางการค้าและการปกครองของท่าเรือแห่งนี้

"ตอนที่ฉันเริ่มตั้งร้าน แทบทุกอย่างเป็นเรื่องท้าทาย เพราะฉันทำทุกอย่างด้วยตัวเอง" Sabrina Goh ดีไซน์เนอร์ที่ได้รับรางวัลกล่าว ปัจจุบันสินค้าของร้านมีความสำคัญเทียบเท่าแบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง Marimekko และ Dr. Martens ในศูนย์การค้า Capitol Piazza "เก้าปีต่อมา เราเน้นที่การสร้างงานดีไซน์ที่เรารักและจัดแสดงในเวทีนานาชาติไม่ว่าจะเป็นสหรัฐ จีน และปารีสทุกฤดูกาล ไม่ใช่แค่เพียงการสร้างแบรนด์ แต่เราหวังว่าจะสร้างชุมชนที่รักและเห็นคุณค่าของการออกแบบและงานฝีมือที่ดีเท่าที่เราจะทำได้"

ภายนอก National Design Centre โดยมีโปสเตอร์การจัดงานกิจกรรมติดอยู่ที่ผนัง
2 National Design Centre (ศูนย์การออกแบบแห่งชาติ)

เดินไปตาม Victoria Street (ถนนวิคตอเรีย) คุณจะเห็น National Design Centre (ศูนย์การออกแบบแห่งชาติ หรือ NDC) ที่ตั้งอยู่ภายในอาคารที่เดิมเป็นสำนักแม่ชี โดยสร้างขึ้นมากว่าหนึ่งศตวรรษแล้ว เพื่อให้การสนับสนุนด้านการออกแบบและงานสร้างสรรค์ที่ทรงคุณค่าในท้องถิ่น นอกจากการจัดงานนิทรรศการที่น่าสนใจอย่างต่อเนื่องแล้ว NDC ยังสร้างแรงบันดาลใจให้ดีไซน์เนอร์ท้องถิ่นหลายคน รวมถึง Carolyn Kan ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งร้าน Carrie K. ได้ก้าวออกจากโลกของการทำงานในบริษัทในปี 2009 เพื่อทำตามความฝันของเธอในการเป็นดีไซน์เนอร์จิวเวลรี่ที่มีดีไซน์แปลกไม่ซ้ำใคร

จานเซรามิกส์หลายขนาดจากร้าน Supermama ตั้งเรียงซ้อนกัน
3 ฮาจิ เลน (Haji Lane)

ขอแนะนำเดินเที่ยวในย่าน Haji Lane and Arab Street (ฮาจิ เลนและถนนอาหรับ) ที่ซึ่งการแสดงดนตรีร่วมสมัยและภาพจิตรกรรมฝาผนังทำให้ทางเดินนี้มีมุมมองใหม่ๆ และเต็มไปด้วยความคึกคัก

ลองชิมอาหารจากร้านต่างๆ ในย่านที่ได้ชื่อว่าเป็นย่านประวัติศาสตร์ ซึ่งมีตั้งแต่แผงขายเครื่องดื่ม Teh Sarabat (ชามาเลย์ต้นตำรับ) ริมทางขึ้นชื่อในสิงคโปร์ ไปจนถึงคาเฟ่ที่มีการแสดงดนตรีสดซึ่งได้รับความนิยมอย่าง Blu Jaz Café คุณอาจแวะที่ร้านตัดเสื้อบนถนนอาหรับเพื่อตัดชุดสูทหรือส่าหรีสักชุด หรือเลือกซื้อเสื้อผ้าสตรีทแวร์ทั่วไปจากร้านในย่านฮาจิ เลน

ร้านหนึ่งที่ได้รับการกล่าวถึงมากที่สุดก็เช่น Supermama ซึ่งจำหน่ายของตกแต่งบ้านเก๋ๆ สไตล์ร่วมสมัยและใช้งานได้ดี ออกแบบในสไตล์สิงคโปร์ "ร้าน Supermama มุ่งเน้นงานดีไซน์และงานฝีมือแท้ๆ" Edwin Low ผู้ก่อตั้งร้านกล่าว เขาตั้งชื่อร้านนี้ตามชื่อภรรยาที่ช่วยเขาในหลายๆ เรื่อง "ลูกค้าชื่นชอบคอลเลคชั่นงานดีไซน์ของเราที่ผลิตขึ้นจากความร่วมมือกับดีไซน์เนอร์ชาวสิงคโปร์และผู้ผลิตชาวญี่ปุ่น รวมถึงเรื่องราวต่างๆ ที่พวกเขาเล่าให้ฟัง"

ร้าน Timbre at The Arts House
4 The Arts House

สำหรับนักสะสมที่ต้องการชมวิวยามดวงอาทิตย์ตกที่ริม Singapore River (แม่น้ำสิงคโปร์) สามารถเลือกซื้อของที่ระลึกจากร้าน The Arts House ซึ่งตั้งอยู่ในสถานที่รัฐสภาเดิมและได้รับการปรับเปลี่ยนมาเป็นสถานที่จัดแสดงงานวิจิตรศิลป์ ชมงานศิลปะของสิงคโปร์ที่เริ่มขึ้นที่นี่ หรือสัมผัสชีวิตยามราตรีริมน้ำด้วยการแวะเที่ยวผับ Timbre @ The Arts House และ Barber Shop by Timbre ที่มีการเล่นดนตรีสดด้วย

Esplanade (เอสพลานาด) ซึ่งเป็นสถานที่จัดแสดงผลงานระดับโลกอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ใกล้ๆ แถวนี้ และในยามค่ำ ขอเชิญชวนนักสะสมเดินชมร้านค้าปลีกที่คัดสรรมาอย่างดี

วันที่ 3: Katong (กาตง)

ด้านหน้าร้าน Kim Choo Kueh Chang ที่ย่าน Katong
1 กิม จู กูเอห์ จาง (Kim Choo Kueh Chang)

"ย่าน Katong เป็นประตูสู่วัฒนธรรมของชาวเปอรานากัน” Raymond Wong ดีไซน์เนอร์ชุดเกบาย่า (กระโปรงชุดสำหรับสุภาพสตรี) ของชาวเปอรานากันแบบดั้งเดิมกล่าวด้วยความรู้สึกตื่นเต้น เขาเป็นดีไซน์เนอร์ชาวสิงคโปร์ที่ได้รับการยกย่องจากนานาชาติ และมักจะบินไปหลายประเทศทั่วโลกเพื่อตัดชุดให้ลูกค้า "ย่าน Katong และ Joo Chiat (จู เชียต) เปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสวัฒนธรรมของสิงคโปร์ในหลากหลายแง่มุมที่เรียงร้อยเข้าด้วยกันและน่าสนใจ"

นอกจากนี้ Raymond ยังเป็นลูกชายเจ้าของร้าน Kim Choo Kueh Chang ร้านขวัญใจมหาชนในย่าน Joo Chiat ซึ่งขายขนมเหนียวแบบเปอรานากันราชาติเลิศอย่างไม่มีใครเทียบได้ และนักท่องเที่ยวมักซื้อกลับบ้าน เขาเชิญชวนให้นักสะสมมาชื่นชมงานฝีมือและของหวานที่ยังคงจำหน่ายในร้านห้องแถวสีสันสดใสของย่าน Katong และเป็นตัวแทนของวิถีชีวิตอันมั่งคั่งของชาวเปอรานากัน

สุภาพสตรีในชุดเกบาย่า ชุดพื้นเมืองของชาวเปอรานากัน กำลังเดินลงบันได
2 The Intan

Alvin Yapp ยินดีต้อนรับนักสะสมให้มาค้นหาวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของชาวเปอรานากัน ซึ่งยังคงดำรงอยู่อย่างแพร่หลายในชุมชนที่เงียบสงบแห่งนี้

"The Intan เป็นพิพิธภัณฑ์ในบ้านของชาวเปอรานากัน" เขากล่าวถึงโครงการในฝันซึ่งปัจจุบันเป็นสถานที่จัดแสดงวัฒนธรรมที่ได้รับการยอมรับ "นักท่องเที่ยวจะได้เห็นข้าวของเครื่องใช้ที่มีสีสันไม่ซ้ำใครผ่านสายตาของนักสะสมอิสระ ซึ่งเริ่มสะสมของเหล่านี้เมื่อ 30 ปีก่อน ขณะที่ค้นหารากเหง้าของตน" เขาเล่าเรื่องตัวเองและพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งขึ้น

ชายหนุ่มกำลังหยุดอยู่ที่ร้านเล็กๆ ริมทางของ Joo Chiat Complex
3

Joo Chiat Complex (จูเชียต คอมเพล็กซ์) บนถนน Joo Chiat ได้รับการปรับปรุงให้เป็นศูนย์การค้าที่สะดวกและทันสมัย ทำให้นักสะสมสามารถเลือกซื้อสินค้าได้อย่างสะดวกสบายในบรรยากาศแบบดั้งเดิม นิตยสารท่องเที่ยว Lonely Planet แนะนำว่า Joo Chiat Complex เป็นสถานที่จำหน่ายงานฝีมือ เสื้อผ้า และเครื่องประดับอัญมณีของชาวมาเลย์-มุสลิมดั้งเดิมในราคาสมเหตุสมผล และยังอยู่ใกล้บรรดาร้านขายอาหารแบบต้นตำรับของชาวมุสลิมในละแวกนั้นอีกด้วย

สิ่งอื่นๆ

ที่น่าลอง