วันที่ 1: ยินดีต้อนรับสู่สิงคโปร์

รถบัสสีแดงเปิดหลังคาที่ให้บริการ DuckTours กำลังแล่นอยู่บนถนนโดยมี Marina Bay Sands เป็นฉากหลัง
1 Singapore Duck Tours

ช่วงเช้าและช่วงบ่าย

ใช้เวลาวันแรกในสิงคโปร์เพื่อดูภาพรวมว่าเรามีอะไรให้เที่ยวบ้างด้วยบริการ Singapore DuckTours (สิงคโปร์ ดั๊กทัวร์) ที่ให้บริการด้วยรถบัสที่จะพาคุณไปแวะชมสถานที่ต่างๆ แพคเกจ City Sightseeing (เที่ยวชมในเมือง) จะพาคุณเที่ยวไปในสถานที่ต่างๆ ตามจังหวะช้าเร็วแบบที่คุณต้องการ ไฮไลท์สำคัญคือ Little India (ย่านลิตเติ้ลอินเดีย), Orchard Road, Chinatown (ไชน่าทาวน์) และ Singapore Botanic Gardens (สวนพฤกษศาสตร์สิงคโปร์)

จากนั้นให้ไปยัง Asian Civilisations Museum (พิพิธภัณฑ์อารยธรรมเอเชีย) แหล่งสะสมวัตถุโบราณและองค์ความรู้จากทั่วทั้งภูมิภาค คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับเรื่องราวการค้าในสมัยราชวงศ์ถัง ค้นพบความรู้เกี่ยวกับศาสนาโบราณ เช่น ศาสนาเชน (Jainism) และทำความรู้จักกับโลกของศิลปะอิสลาม

ถ้าคุณไปวันเสาร์ อย่าลืมไปชมกิจกรรมสำหรับครอบครัวที่มีอยู่มากมายในหอศิลป์ กิจกรรมเหล่านี้ ได้แก่ การเล่าเรื่องราวของวรรณคดีอันทรงคุณค่าของจีน เช่น ไซอิ๋ว (Journey to the West) และชั้นเรียนงานฝีมือที่จะเปิดโอกาสให้ลูกๆ ของคุณได้ประดิษฐ์เรือมหาสมบัติขนาดจิ๋วด้วยตัวเอง

เรือบัมโบ๊ทแบบดั้งเดิมในแม่น้ำสิงคโปร์
2 Singapore River (แม่น้ำสิงคโปร์)

ช่วงเย็น

ในช่วงเย็น คุณน่าจะไปล่องเรือบัมโบ๊ทแบบดั้งเดิมที่ Singapore River (แม่น้ำสิงคโปร์) ไปกับ Singapore River Cruise (สิงคโปร์ ริเวอร์ครูซ) การล่องเรือนี้จะมีมัคคุเทศก์คอยให้ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับท่าเรือที่มีชื่อเสียงสองแห่งของสิงคโปร์คือ Boat Quay (ท่าเรือโบ๊ทคีย์) และ Clarke Quay (ท่าเรือคลาร์ก คีย์) พร้อมกับชมวิวทิวทัศน์ที่งดงามของ Marina Bay (อ่าวมารีน่า) ในขณะที่เรือล่องผ่าน

วันที่ 2: ท่องดินแดนมหาสนุก

คนขับโกคาร์ทที่ Skyline Luge Sentosa
3 เกาะเซ็นโตซ่า

ทั้งวัน

Sentosa (เกาะเซ็นโตซ่า) หรืออีกชื่อหนึ่งคือ "ดินแดนมหาสนุก" คือสนามเด็กเล่นที่กว้างใหญ่สำหรับทั้งครอบครัว เกาะที่มีชื่อเสียงแห่งนี้ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของสิงคโปร์และมีสถานที่ท่องเที่ยวรวมถึงกิจกรรมที่น่าสนใจสำหรับทุกคน

เริ่มต้นด้วยการไปเยือนยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ สวนสนุกในธีมภาพยนตร์แห่งนี้มีเครื่องเล่นที่น่าตื่นเต้นมากมายโดยเลียนแบบภาพยนตร์ชื่อดังอย่างเช่น Transformers และ Jurassic Park เดินเที่ยวให้ทั่วทั้งเจ็ดโซนและถ่ายรูปครอบครัวร่วมกับตัวการ์ตูนที่คุณรู้จักดี เช่น มินเนียนจากเรื่องมิสเตอร์แสบร้ายเกินพิกัด (Despicable Me)

สำหรับมื้อกลางวัน เชิญแวะไปที่ Tanjong Beach Club เพื่อลิ้มลองอาหารอร่อยๆ เช่น ซาลาเปาล็อบสเตอร์ และฟิชแอนด์ชิปสำหรับเด็กๆ จากนั้นเอนหลังสักครู่ที่เก้าอี้เดย์เบดริมสระ หรือไปสนุกที่ Adventure Cove Waterpark™ (สวนน้ำแอดเวนเจอร์ โคฟ) และตื่นเต้นไปกับสไลเดอร์พร้อมชมสัตว์น้ำนานาชนิด หรือหากต้องการทำกิจกรรมที่ตื่นเต้นเร้าใจกว่านี้ ลองไปเล่น สกายไลน์ ลูจ (Skyline Luge) เครื่องเล่นแบบกึ่งเลื่อนกึ่งรถโกคาร์ทที่สนุกสุดเหวี่ยงสำหรับคนทุกเพศทุกวัย

เมื่อถึงเวลาอาหารเย็น คุณสามารถนั่งรถบัสไปที่ Quayside Isle (คีย์ไซต์ ไอล์) ที่ Sentosa Cove (เซ็นโตซา โคฟ) เพื่อมองหาร้านอาหารบรรยากาศดีๆ ที่มีให้เลือกมากมาย ขอแนะนำร้านอาหารกรีกอย่าง Mykonos On The Bay หรือชิมพิซซ่าแบบอิตาลีที่ SolePomodoro และอาหารทะเลสดๆ ที่ Greenwood Fish Market

วันที่ 3: แหล่งรวมวัฒนธรรม

อาคาร Rotunda Dome ใน National Gallery ภายใต้แสงธรรมชาติ
4 National Gallery Singapore (หอศิลป์แห่งชาติสิงคโปร์)

ช่วงเช้า

เริ่มต้นการเดินทางที่ National Gallery Singapore (หอศิลป์แห่งชาติสิงคโปร์) ซึ่งจัดแสดงผลงานศิลปะของศิลปินท้องถิ่นและของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จำนวนมากกว่า 8,000 ชิ้น เด็กๆ จะสนุกสนานในศูนย์การเรียนรู้ Keppel Centre for Art Education ที่มีพื้นที่ 1,000 ตารางเมตร อันประกอบด้วยโซนศิลปะสี่โซน เช่น Art Playscape ที่เด็กๆ สามารถเดินตามแผนที่ลายแทงเพื่อไขความลับและพบกับตัวการ์ตูนใหม่ๆ ที่น่ามหัศจรรย์

ดวงอาทิตย์ตกที่ ArtScience Museum™
5 ArtScience Museum™ (พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ศิลปะ)

ช่วงบ่าย

หลังจากสนุกสนานในช่วงเช้าแล้ว เชิญแวะที่ ArtScience Museum™ (พิพิธภัณฑ์ศิลปะวิทยาศาสตร์) ที่ Marina Bay Sands® เคล็ดลับ: ควรไปวันศุกร์เพราะเด็กๆ อายุไม่เกิน 12 ปีจำนวนไม่เกินสี่คน จะได้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ฟรี เมื่อซื้อบัตรเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่หนึ่งใบ

นอกจากงานนิทรรศการหลักแล้ว (ซึ่งมีการเปลี่ยนหัวข้ออยู่เป็นระยะๆ) คุณยังสามารถเข้าร่วมทัวร์เที่ยวชมแบบอินเทอร์แอคทีฟและมีไกด์นำเที่ยว เช่น Future World ซึ่งจะทำให้ทั้งครอบครัวได้สนุกไปกับการเรียนรู้ด้วยตัวเอง คลิกที่นี่เพื่ออ่านรายละเอียดเกี่ยวกับทัวร์รายการต่อไป

การแสดงยามค่ำคืนที่โรงละครกลางแจ้ง Esplanade
6 เอสพลานาด – เธียเตอร์ส ออน เดอะเบย์

ช่วงเย็น

จากนั้น ปิดท้ายวันด้วยการไปเยี่ยมชม Esplanade – Theatres on the Bay (เอสพลานาด – เธียเตอร์ส ออน เดอะเบย์) คุณจะได้ชมการแสดงที่จะสะกดสายตาของคุณไว้จากหลากหลายเวทีในสถานที่อันยิ่งใหญ่แห่งนี้ หรือไปเดินเล่นริมน้ำขณะที่ดวงอาทิตย์ลับฟ้า

ที่นี่มักจัดกิจกรรมสำหรับครอบครัวอยู่เป็นประจำ เช่น กิจกรรมโรงละครสำหรับเด็ก ซึ่งมีอย่างต่อเนื่อง เช่น Playtime และเวิร์กช็อปการทำตราแสตมป์อย่าง Home Made ถ้าคุณไม่อยากพลาด ลองดูตารางได้จากปฏิทิน

และอย่าลืมแวะไปที่ Esplanade Outdoor Theatre (โรงละครกลางแจ้งเอสพลานาด) เพื่อดูการแสดงดนตรีได้ฟรี และถ้ารู้สึกหิว ลองแวะไปที่ Glutton’s Bay เพื่อชิมอาหารท้องถิ่นอย่างข้าวมันไก่และสะเต๊ะ

วันที่ 4: สัมผัสธรรมชาติ

ซุ้มที่เป็นสัญลักษณ์ซึ่งตั้งอยู่ที่ สวนพฤกษศาสตร์สิงคโปร์
7 สวนพฤกษศาสตร์สิงคโปร์ (Singapore Botanic Gardens)

ช่วงเช้า

ให้ครอบครัวของคุณได้ใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติ โดยแบ่งออกเป็นสองช่วงคือการเที่ยวชม Singapore Botanic Gardens และการเที่ยวชม Gardens by the Bay ซึ่งเป็นสวนสวยระดับโลกทั้งสองแห่ง และมีสิ่งที่น่าสนใจให้คุณได้ชื่นชมแตกต่างกันไปคนละแบบ (รวมทั้งมีร้านอาหารบรรยากาศดีๆ ให้เลือกหลายร้าน มั่นใจได้ว่าเด็กๆ จะไม่หิวโซ)

ในช่วงเช้า ลองเดินไปเที่ยวชม Singapore Botanic Gardens ที่มีอายุเก่าแก่ถึง 150 ปีและได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก สถานที่ที่ไม่ควรพลาดได้แก่ Swan Lake (ทะเลสาบสวอน) ใน National Orchid Garden (สวนกล้วยไม้แห่งชาติ) ซึ่งเป็นการจัดแสดงกล้วยไม้ที่ใหญ่ที่สุดของโลก หรือสวนน้ำ Jacob Ballas Children's Garden ที่ช่วยให้เด็กๆ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม

แวะทานมื้อเที่ยงที่ Casa Verde ร้านอาหารที่เหมาะสำหรับเด็ก ซึ่งเสิร์ฟพาสต้าและพิซซ่าขอบแบบบางกรอบหอมกรุ่นจากเตาในราคาย่อมเยา พร้อมด้วยเมนูท้องถิ่นที่ขึ้นชื่ออย่าง นาซิ เลอมัก (ข้าวมันที่เสิร์ฟพร้อมกับข้าว) และ ผัดหมี่ฮกเกี้ยนกุ้ง และถ้าอากาศดี คุณก็สามารถเช่าตะกร้าปิกนิกจากทางร้านเพื่อไปนั่งปิกนิกและให้เด็กๆ ได้วิ่งเล่นที่สนามซึ่งอยู่ริม Symphony Lake

วิวของ Supertree ที่ Gardens by the Bay สิงคโปร์
8 Gardens by the Bay (การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์)

ช่วงบ่ายและช่วงเย็น

Gardens by the Bay สวนสวยทันสมัย ที่มี Supertree สวนแนวตั้งที่สูงถึง 50 เมตร อย่าพลาดชมจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่นๆ เช่น Flower Dome (ฟลาวเวอร์โดม) (เรือนกระจกที่ใหญ่ที่สุดในโลก) และ Cloud Forest (คลาวด์ฟอเรสต์) น้ำตกในร่มฝีมือมนุษย์ที่สูงที่สุดในโลก

สำหรับมื้อค่ำ ก็มีร้านอาหารและภัตตาคารมากมายให้คุณเลือก เช่น Pollen ร้านอาหารฝรั่งเศสเมดิเตอเรเนียน ที่คุณสามารถชมวิวแบบพาโนราม่าของริมอ่าว Marina Bay และ Majestic Bay Seafood Restaurant ภัตตาคารซีฟู้ดอาหารจีน (เหมาะสำหรับเมนูคลาสสิกของสิงคโปร์อย่าง ปูผัดพริก และปูผัดพริกไทยดำ)

วันที่ 5: เรียนรู้วิทยาศาสตร์และประวัติศาสตร์

ด้านในที่ล้ำสมัยของ Science Centre Singapore
9 Science Centre Singapore (ศูนย์วิทยาศาสตร์สิงคโปร์)

ช่วงเช้า

ในช่วงครึ่งเช้าของวันนี้จะเป็นช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้ที่สนุกสนาน พาครอบครัวไปที่ Science Centre Singapore (ศูนย์วิทยาศาสตร์สิงคโปร์) เพื่อเรียนรู้ข้อมูลที่น่าสนใจ และนิทรรศการแบบอินเทอร์แอคทีฟนับพันรายการ

นอกจากนี้ ยังมีการแสดงและการสาธิตต่างๆ ให้คุณได้เลือกชม คุณสามารถดูการเกิดทอร์นาโดไฟ หรือเรียนรู้เกี่ยวกับการเจริญเติบโตของผีเสื้อที่แสนมหัศจรรย์ในแต่ละช่วงชีวิตที่ Butterflies Up Close ลองไปที่ Omni-Theatre โรงภาพยนตร์ IMAX แห่งเดียวของสิงคโปร์ เพื่อสัมผัสประสบการณ์การชมภาพยนตร์เสมือนจริงที่ไม่เหมือนที่ไหน

ภาพที่ฉายในโรงภาพยนตร์ IMAX ทรงโดม
10 สิงคโปร์ ดิสคัฟเวอรี่ เซ็นเตอร์ (Singapore Discovery Centre)

ช่วงบ่ายและช่วงเย็น

คุณสามารถใช้เวลาที่เหลือทั้งวันไปกับ Singapore Discovery Centre (สิงคโปร์ ดิสคัฟเวอรี เซ็นเตอร์) สถานที่แห่งนี้เน้นความเป็นมาและอนาคตของสิงคโปร์ โดยจัดแสดงนิทรรศการและจุดเยี่ยมชมต่างๆ ที่น่าสนใจ เช่น SAFTI BUS TOUR ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้มาเที่ยวได้รู้จักกับกองทัพของสิงคโปร์ และ "Battlefield Command" เกมเสมือนจริงของกองกำลังติดอาวุธสิงคโปร์ (SAF) รุ่นที่สาม ซึ่งเป็นเกมแรกที่ออกแบบมาสำหรับคนทั่วไป

วันที่ 6: เที่ยวป่าอันอุดมสมบูรณ์

ฝูงพะยูนแมนนาทีในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดใน River Safari สิงคโปร์
11 River Safari (ริเวอร์ซาฟารี)

ช่วงเช้า

เริ่มต้นวันของคุณที่ River Safari (ริเวอร์ซาฟารี) สวนสัตว์ป่าในแม่น้ำแห่งแรกและแห่งเดียวของเอเชีย ถิ่นที่อยู่อาศัยในแม่น้ำที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศนี้ คือแหล่งอาศัยของสัตว์น้ำและสัตว์บกกว่า 7,500 ตัวที่มาจาก 240 สายพันธุ์

สำรวจโซนต่างๆ เช่น Amazon Flooded Forest (ป่าอะเมซอน), Congo River (แม่น้ำคองโก) หรือ Mekong River (แม่น้ำแม่โขง) เพื่อเรียนรู้ชีวิตสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำนี้

คุณจะตื่นตาตื่นใจไปกับพะยูนแมนนาที (Manatee) และปลาอาไรไพม่า (Arapaimas) ที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลก หรือสามารถเข้าร่วมทัวร์ Manatee Mania เพื่อใกล้ชิดกับพะยูนที่แสนอ่อนโยนเหล่านี้ได้ นอกจากนี้ ยังสามารถสัมผัสประสบการณ์การผจญภัยที่จะประทับใจไม่รู้ลืมในเรือ Amazon River Quest เพื่อมองหาสัตว์ป่าอะเมซอนที่หลบหนีได้อย่างว่องไวและพรางตัวแนบเนียน เช่น เสือจากัวร์และตัวกินมด

ชมการแสดงของสัตว์รายการล่าสุด อย่าง Once Upon a River เพื่อชื่นชมความเก่งกาจของนกกระทุงยักษ์ หนูยักษ์คาปิบาร่าและอื่นๆ และถ้าคุณยังต้องการจะอยู่ต่อเพื่อขอถ่ายรูปกับดาราสัตว์ตัวโปรด ก็ย่อมทำได้ และก่อนออกจากสถานที่แห่งนี้ โปรดอย่าลืมแวะไปเยี่ยมเจ้าหมีแพนด้ายักษ์อย่าง Kai Kai และ Jia Jia ในบริเวณที่อยู่อาศัยของหมีแพนด้ายักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค

เด็กป้อนอาหารแรดที่ Singapore Zoo
12 Singapore Zoo

ช่วงบ่าย

พอตกบ่าย เชิญแวะไปที่ Singapore Zoo ที่อยู่ใกล้ๆ กันเพื่อเพิ่มดีกรีความสนุก เริ่มต้นด้วยอาหารท้องถิ่นต้นตำรับที่ร้าน Ah Meng Restaurant เพื่อเติมพลังไว้ใช้ในช่วงบ่าย

ที่นี่คุณจะสังเกตเห็นสัตว์ต่างๆ ในถิ่นที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของพวกมันในบรรยากาศสวนสัตว์เปิดที่ไม่เหมือนที่ใดในโลก เมื่อเข้าไปยังส่วน Fragile Forest คุณจะได้เดินเคียงข้างไปกับสัตว์ต่างๆ ที่เดินไปมาอย่างเสรี เช่น กระจงเล็ก หรือเฝ้าดูครอบครัวอุรังอุตังห้อยโหนโจนทะยานไปมาเหนือศีรษะของคุณในเขตที่อาศัยของอุรังอุตังแบบเปิด นอกจากนี้ คุณยังจะได้ใกล้ชิดและได้ป้อนอาหารให้สัตว์ตัวโปรดด้วยมือคุณเอง เช่น ยีราฟ ช้าง หรือแรด

คุณสามารถปล่อยให้เด็กๆ วิ่งเล่นได้ที่ Rainforest Kidzworld ที่เด็กๆ จะได้เล่นกับสัตว์มีขนขนาดเล็ก เช่น กระต่าย หนูตะเภา และตัวเม่น ได้อย่างสนุกสนาน หรือพาพวกเขาไปเล่นน้ำที่ Wet Play Area สวนน้ำที่มีอุปกรณ์ฉีดพ่นน้ำหลากหลายสีสัน สถานที่ปีนป่าย ม้าลื่น และท่อน้ำให้ไหลตัวสนุกๆ สำหรับเด็กที่โตขึ้นมาหน่อย ให้ไปที่ Houbii Spot ที่อยู่ใกล้กับอนุสรณ์สถาน Ah Meng เพื่อท้าทายตัวเองด้วยกิจกรรมโหนเชือกแบบต่างๆ ท่ามกลางทิวทัศน์ของอ่างเก็บน้ำที่เงียบสงบ

สวนสัตว์แห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสามสวนสัตว์ที่ดีที่สุดในโลกจาก TripAdvisor Travellers’ Choice Award 2018 โดยเป็นที่อยู่ของสัตว์มากกว่า 2,400 ตัวจาก 300 สายพันธุ์ คุณจะมีโอกาสได้เก็บภาพอันน่าตื่นตาตื่นใจมากมาย พร้อมชมการแสดงสุดหรรษา และเข้าร่วมกิจกรรมสนุกๆ ที่เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว

ครอบครัวกำลังชมเสือโคร่งมลายูขณะนั่งรถรางเที่ยวชมใน Night Safari สิงคโปร์
13 Night Safari

ช่วงเย็น

พอตกกลางคืน ก็เป็นเวลาที่เหมาะสำหรับการสำรวจสวนสัตว์กลางคืนแห่งแรกของโลกที่มีรางวัลการันตีที่ Night Safari (ไนท์ซาฟารี) แต่ก่อนอื่น คุณควรไปรับประทานมื้อค่ำที่มีเมนูอาหารเอเชียที่หลากหลายที่ร้าน Ulu Ulu Safari Restaurant เสียก่อนเพื่อเติมพลังให้กับการผจญภัยของคุณที่จะเกิดขึ้นที่นี่

ที่นี่เป็นที่อยู่ของสัตว์ที่ออกหากินยามกลางคืนมากถึง 900 ตัวจาก 100 สายพันธุ์ วิธีที่ดีที่สุดในการชมสัตว์เหล่านี้ก็คือการนั่งรถราง Tram Safari ซึ่งจะพาคุณไปสำรวจพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ของโลกหกแห่ง คุณจะได้เห็นสมเสร็จมลายู ช้างเอเชีย และควายป่าแอฟริกา

นอกจากนี้ ยังมีเส้นทางเดินสี่เส้นทางเพื่อให้คุณได้ใกล้ชิดกับชีวิตสัตว์ป่ากลางคืนมากขึ้น เริ่มต้นเส้นทางด้วย Leopard Trail เพื่อที่คุณจะได้เห็นแมวยักษ์อย่างสิงโตเอเชีย ในอิริยาบทที่กำลังกินอาหารที่บริเวณ Lion Lookout จากนั้นไปต่อที่ East Lodge Trail เพื่อเยี่ยมชมไฮยีน่าลายจุดและเสือมลายู

และสิ้นสุดค่ำคืนของคุณด้วยการมุ่งไปยังโซนใหม่อย่าง Explorer Outpost ที่อยู่ตามเส้นทาง Fishing Cat Trail เพื่อพบกับสัตว์กลางคืนชนิดใหม่ล่าสุดของเรา ซึ่งก็คือ อาร์มาดิลโล่สามแถบจากอเมริกาใต้ และก่อนออกจากสวนสัตว์แห่งนี้ ลองแวะไปชมการแสดง Creatures of the Night Show ที่คุณจะได้พบกับเหล่าบรรดาดาราสัตว์เช่น นากเล็กเล็บสั้นและคาปิบาร่าในอิริยาบทต่างๆ

วันที่ 7: ช้อปให้จุใจ

ครอบครัวเดินผ่านรูปปั้น “Urban people” ที่อยู่ด้านนอกห้าง ION Orchard
14 Orchard Road (ถนนออร์ชาร์ด)

ช่วงเช้าและช่วงบ่าย

การช้อปปิ้งอาจเป็นงานอดิเรกที่เหมาะกับทุกคนในครอบครัว ขอเพียงแค่รู้ว่าควรจะไปที่ไหนเท่านั้น

อย่าลืมแวะไปที่ถนนออร์ชาร์ดเพื่อใช้เวลาช่วงเช้าและช่วงบ่ายในย่านช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงระดับโลกแห่งนี้ ในย่านนี้มีห้างสรรพสินค้าสองแห่งที่เหมาะสำหรับเด็ก นั่นคือ: Paragon (ห้างพารากอน) และ Forum (ห้างฟอรั่ม) มีพื้นที่วิ่งเล่นสำหรับเด็ก เพื่อให้ลูกๆ ของคุณได้สนุกสนานในขณะที่คุณไปเดินช้อปปิ้งที่ร้านค้าแบรนด์ต่างๆ เช่น BOSS และ Calvin Klein

ภาพจากมุมสูงของสนามเด็กเล่นที่ Vivocity
15 วิโว่ซิตี้ (Vivo City)

ช่วงเย็น

เมื่อถึงเวลาเย็น ไปให้ร้านแฟชั่นอย่าง Benjamin Barker และ ALDO ที่ VivoCity (วิโวซิตี้) เด็กๆ จะได้เล่นสนุกสนานที่สนามเด็กเล่นแบบเปิดที่ชั้นสองของห้าง และที่บริเวณสกาย พาร์คชั้นสาม ซึ่งเป็นสวนน้ำ

คู่มือท่องเที่ยวที่แนะนำกำหนดการท่องเที่ยวโดยละเอียดนี้จะแนะนำกิจกรรมที่น่าสนใจ แหล่งช้อปปิ้งและร้านอาหารที่เหมาะสำหรับครอบครัวนี้ เพื่อให้ช่วงเวลาเจ็ดวันของคุณในสิงคโปร์เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด! สำหรับกิจกรรมครอบครัวและกิจกรรมอื่นๆ สำหรับเด็ก เชิญดูที่หน้านี้

Also

Check Out