วันที่ 1: ชิมอาหารตะวันออก

Ruqxana ซื้อวัตถุดิบจากแผงร้านค้าในตลาด Geylang Serai
1 เกลัง เซอไร มาร์เก็ต (Geylang Serai Market)

เริ่มต้นวันใหม่ที่สดใสตั้งแต่เช้าด้วยการไปเยือนตลาด ตลาดเกลัง เซอไร (Geylang Serai) ตลาดแห่งนี้เดิมทีเป็นย่านของ ชาวเลเผ่าอูรัง ลาโว้ย (Orang Laut ) ในช่วงทศวรรษที่ 1840 ปัจจุบันคือศูนย์กลางของชุมชนชาวมาเลย์ในสิงคโปร์ และยังเป็นตลาดสดที่ใหญ่ที่สุดและคึกคักที่สุดแห่งหนึ่งในสิงคโปร์

"ฉันมาที่ตลาด Geylang Serai บ่อยๆ เพื่อมาซื้อมะพร้าวขูดและเครื่องปรุงสำหรับอาหารสิงคโปร์แบบมาเลย์" Ruqxana กล่าว "ที่นี่มีสมุนไพรซึ่งคุณหาซื้อไม่ได้จากที่อื่น (ในสิงคโปร์)"
 

คู่รักกำลังทานอาหารเที่ยงกันอย่างมีความสุขที่ 328 Katong Laksa
2 328 กาตง หลักซา (328 Katong Laksa)

แวะพักทานมื้อเที่ยงกันที่ 328 Katong Laksa ในย่าน กาตง/จูเชียต (Katong/Joo Chiat) ร้านนี้ได้รับรางวัลร้านอาหารคุณภาพดีในราคาที่ไม่แพง Michelin Bib Gourmand ขายอาหารจานร้อนอย่างลักซา (ก๋วยเตี๋ยวรสเผ็ดในน้ำซุปเข้มข้น) มาเป็นเวลาสองทศวรรษแล้ว

Ruqxana บอกว่า อาหารจานนี้จะกระตุ้นให้คุณรู้สึกอยากลิ้มลองอาหารท้องถิ่นสิงคโปร์อย่างแน่นอน และยังเป็นสัญลักษณ์ของมรดกแห่งความหลากหลายทางเชื้อชาติของเรา "คุณสามารถบอกได้ว่าลักซาคือตัวแทนที่บ่งบอกความเป็นสิงคโปร์ที่ดีที่สุด" เธอกล่าว "เพราะเป็นการผสมผสานกันระหว่างวัฒนธรรมอินเดีย มาเลย์ และจีน (ในแง่อาหาร)"
 

ข้าวของเครื่องใช้โบราณ เครื่องประดับตกแต่งและเครื่องเคลือบแบบเปอรานากันใน Rumah Bebe
3 Joo Chiat/Katong

"ฉันรักมรดกทางวัฒนธรรมและตึกแถวที่สวยงามพวกนี้ (ในย่าน Katong และ Joo Chiat)" Ruqxana กล่าว ย่าน Katong/Joo Chiat เป็นแหล่งรวมสถาปัตยกรรมแบบเปอรานากัน* ที่มีเอกลักษณ์ของสิงคโปร์ จึงไม่ควรพลาดในการมาเยี่ยมชม

ถ้าคุณหลงใหลเสน่ห์แห่งอดีตและวัฒนธรรมเก่าแก่ เช่นเดียวกับ Ruqxana คุณต้องไม่พลาดที่จะแวะมาที่ รูมาห์ เบเบ (Rumah Bebe) ตึกแถวที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีแห่งนี้จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้โบราณ เครื่องประดับตกแต่งและถ้วยชามเครื่องเคลือบแบบเปอรานากัน

*คำนี้เป็นภาษาอินโดนีเซีย/มาเลย์ หมายถึง "เกิดในท้องถิ่น" โดยทั่วไปหมายถึงชาวจีนที่มีเชื้อสายมลายู/อินโดนีเซีย
 

พิซซ่าและอุปกรณ์ทำขนมจากร้าน The Coastal Settlement
4 ชางงีวิลเลจ

แวะพักจิบน้ำชาที่ The Coastal Settlement คาเฟ่ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางความเขียวขจีบนถนน Netheravon คาเฟ่แห่งนี้ได้รับคำชมจาก Ruqxana ว่า "เป็นการผสมผสานระหว่างอาหารตะวันตกและอาหารเอเชียได้อย่างยอดเยี่ยม" และ "(มีบรรยากาศแบบ) วินเทจ"

คุณสามารถใช้เวลาตลอดบ่ายเดินเล่นไปตาม Changi East Boardwalk เส้นทางเดินชมวิวยาว 2.2 กิโลเมตรซึ่งแบ่งเป็น 6 โซน โดยมีพื้นที่ตั้งแต่ย่านถนน Netheravon ไปจนถึง Changi Creek
 

ปูผัดพริก
5 Hua Yu Wee

สิ้นสุดวันนี้ด้วยมื้อค่ำที่ Hua Yu Wee บนถนน Upper East Coast Road ร้านนี้ตั้งอยู่ในอาคารสไตล์โคโลเนียล เป็นร้านอาหารที่มีเมนูอาหารทะเลมากมาย ชวนให้น้ำลายสอสำหรับนักชิมอาหารมีระดับ

สำหรับ Ruqxana แล้ว มื้ออาหารที่ประกอบด้วยอาหารทะเลรสเลิศและบทสนทนาที่สนุกสนานคือประสบการณ์อันสมบูรณ์แบบของชาวสิงคโปร์ "การได้นั่งคุยกับกลุ่มเพื่อน และอร่อยไปกับอาหารท้องถิ่น (ที่เป็นเอกลักษณ์) เช่น ปูผัดพริก คือความเป็นสิงคโปร์ที่แท้จริง"

วันที่ 2: ความสุขแห่งประสาทสัมผัส

เจ้าของแผงขายผักใน Little India
1 Little India

เริ่มต้นวันด้วยอาหารมื้อสายที่ย่าน ลิตเติ้ลอินเดีย (Little India) บนถนน Serangoon (เซรังกูน) ที่ซึ่ง Ruqxana แนะนำให้คุณ "เติมพลังด้วย เครปอินเดีย (dosa)  และ แพนเค้กนมของอินเดีย (appam) ย่านที่มีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยวัฒนธรรมของเอเชียใต้แห่งนี้เต็มไปด้วยวัด ร้านค้าดั้งเดิม และตลาดสด

สิ่งที่รับรู้ได้จากประสาทสัมผัสทั้งห้า คือปัจจัยที่ดีที่สุดที่ช่วยเพิ่มความชื่นชอบในอาหารที่เป็นฝีมือของเชฟ ลองมองสำรวจ ฟังเสียง และดมกลิ่นเครื่องเทศที่ เท็กกะ เซ็นเตอร์ (Tekka Centre) ตลาดสดในร่มที่ใหญ่ที่สุดของสิงคโปร์ ซึ่งขายผักผลไม้สดและวัตถุดิบหายาก
 

รูปปั้นที่บริเวณทางเข้า Peranakan Museum
2 พิพิธภัณฑ์เปอรานากัน
(Peranakan Museum)

"พิพิธภัณฑ์สร้างแรงบันดาลใจให้ฉัน ทำให้ฉันรู้สึกอยากย้อนเวลากลับไปอยู่ตรงนั้น" Ruqxana กล่าว ถ้าคุณรู้สึกรักในงานศิลปะ วัฒนธรรมเก่าแก่ และหลงใหลเสน่ห์แห่งอดีตเช่นเดียวกับเธอ คุณจะต้องการมาหาแรงบันดาลใจที่ พิพิธภัณฑ์เปอรานากัน (Peranakan Museum) ที่นี่เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์สุดโปรดของเธอ พื้นที่แห่งมรดกทางวัฒนธรรมแห่งนี้คือ การจัดแสดงวัฒนธรรมเปอรานากันอันน่าภาคภูมิใจ มีหอศิลป์ที่จัดแสดงงานเย็บปักถักร้อยแบบโบราณ กวีนิพนธ์ และงานศาสนศิลป์
 

แฟนดนตรีกำลังเพลิดเพลินไปกับการแสดงกลางแจ้งที่ Esplanade
3 เอสพลานาด – เธียเตอร์ส ออน เดอะเบย์

ตอกย้ำความหลงใหลในศิลปะของคุณด้วยการไปชมการแสดงที่ เอสพลานาด (Esplanade) ศูนย์ศิลปะการแสดงที่ตั้งอยู่ใกล้บริเวณปากแม่น้ำ Singapore River ศูนย์ศิลปะแห่งนี้เป็นเจ้าภาพจัดการแสดงทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมีโปรแกรมน่าสนใจต่างๆ มากมาย ตั้งแต่การเต้นไปจนถึงการแสดงดนตรี

"ฉันรักประเทศของฉัน... เป็นเรื่องง่ายมากที่จะรู้สึกภูมิใจในสิงคโปร์" Ruqxana กล่าว "ฉันสามารถไปดูละครเวที ละครเพลง คอนเสิร์ต (วงการศิลปะ) กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว แล้วก็มีกิจกรรมมากมายที่จัดขึ้น" ถ้าคุณรู้สึกหิวและอยากลองชิมอาหารท้องถิ่น เชิญแวะไปที่ Makansutra Gluttons Bay ซึ่งอยู่ติดกับศูนย์ศิลปะการแสดง ขอแนะนำให้คุณลองสะเต๊ะแสนอร่อย
 

คอลเล็กชั่นของสะสมและของโบราณที่ The Heritage Shop ที่ Arab Street
4 Arab Street

ใช้เวลาช่วงบ่ายในย่าน Arab Street ที่จ้อกแจ้กจอแจ ที่นี่มีทั้งร้านเสื้อผ้าบูติกและสินค้าไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัย สำหรับผู้ที่ชอบของที่ระลึกและของเก่าล้ำค่า Ruqxana แนะนำให้แวะไปที่ เดอะเฮอริเทจ ช็อป (The Heritage Shop) แหล่งรวมของเก่าๆ ที่น่าสะสม เช่น โปสการ์ด เหรียญรุ่นเก่า และแผ่นเสียง

"ฉันรักแฟชั่นและการช้อปปิ้ง คนหนุ่มสาวที่เริ่มต้น (ทำธุรกิจ) ที่นี่มีความมุ่งมั่นมากในสิ่งที่พวกเขาทำ พวกเขาขายของต่างๆ ที่พวกเขารัก" Ruqxana กล่าวอย่างตื่นเต้น "ทั้งหมดนี้คือชีวิต ฉันรักความมีพลังของสถานที่นี้มาก"
 

ซาชิมิผักบนน้ำแข็ง พร้อมไข่นกกระทาในแก้วช็อตจาก Joie by Dozo
5 Joie by Dozo

ถ้าคุณไม่เคยลิ้มลองอาหารที่ตกแต่งอย่างมีศิลปะ Ruqxana แนะนำให้แวะไปที่ Joie by Dozo ร้านอาหารที่ถ่ายทอดศิลปะการปรุงอาหารผ่านเมนูต่างๆ ที่ทั้งอร่อยและดูดี

"คุณแทบจะไม่อยากทานอาหารเหล่านี้เลย เพราะมันสวยมาก" เธอกล่าวยกย่องความชำนาญในการจัดจานที่ร้านอาหารแห่งนี้ ที่เชี่ยวชาญด้านอาหารมังสวิรัติสไตล์ญี่ปุ่นและตะวันตก

สิ่งอื่นๆ

ที่น่าลอง