การเดินทางไปรอบๆ เกาะแห่งนี้มีด้วยกันหลายวิธี และการเดินทางโดยรถไฟก็เป็นวิธีหนึ่งที่สะดวกที่สุด เมื่อคุณใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สาย East-West ของสิงคโปร์ คุณจะผ่านสถานที่สำคัญต่างๆ เข้าไปสู่ย่านตัวเมืองและพื้นที่อื่นๆ ดังนั้น คุณควรแวะชมสถานที่ที่น่าสนใจเหล่านี้รวมถึงร้านอาหารต่างๆ ที่พลาดไม่ได้

ภาพด้านนอกของตลาด Geylang Serai ถ่ายจากบนสะพาน

Pasir Ris (เปซีร์ ริส)
ตัวเงินตัวทองที่กำลังเดินอยู่บนทางเดินในสวนสาธารณะ Pasir Ris Park สิงคโปร์

หาดทรายรอคุณอยู่ทางฝั่งตะวันออกของเกาะ ดังนั้นเตรียมตะกร้าปิกนิกของคุณให้พร้อม แล้วมุ่งไปที่ Pasir Ris Park (สวนสาธารณะเปเซอร์ ริส พาร์ค) คำว่า Pasir Ris Park เป็นภาษามาเลย์ที่แปลว่า "ชายหาดแคบๆ" แต่ในความเป็นจริงแล้วกลับตรงกันข้าม นอกจากกิจกรรมเดินเล่นตามชายหาดแล้ว คุณน่าจะลองตั้งเตาบาร์บีคิวตามจุดก่อไฟต่างๆ ที่จัดไว้ให้ หรือไปสัมผัสกับธรรมชาติด้วยการเดินป่าผ่านเส้นทางเดินสำรวจป่าชายเลน Mangrove Boardwalk แต่ต้องระวังตัวเงินตัวทองและฝูงนกทึดทือมลายูที่หลบซ่อนอยู่ตามหนองน้ำ

ถ้าอยากให้อะดรีนาลีนของคุณพลุ่งพล่าน ลองไปเล่นกีฬาทางน้ำ เช่น การพายเรือคายัค หรือการแล่นเรือใบที่ PA Water-Venture เนื่องจากในน้ำคลื่นไม่แรง ดังนั้น ผู้เล่นที่เพิ่งหัดเล่นก็ยังสามารถพายเรือได้อย่างสบายๆ


Paya Lebar (พายา เลบาร์)
ขนมของร้าน Haig Road Putu Piring

อาหารนับเป็นวิธีการเรียนรู้วัฒนธรรมที่ดีเยี่ยม ลองชิมอาหารมาเลย์ต้นตำรับได้ที่ Geylang Serai (เกลัง เซอไร) ย่านที่อยู่อาศัยของชาวมาเลย์ที่เก่าแก่ที่สุดย่านหนึ่งในสิงคโปร์

ที่ศูนย์อาหาร Geylang Serai Market and Food Centre ซึ่งเป็นอาคารสองชั้นนี้ คุณจะได้กลิ่นเครื่องเทศและสามารถเลือกซื้อผักผลไม้สดๆ จากตลาดสดที่อยู่ชั้นล่างของอาคาร ก่อนจะเดินไปยังแผงขายอาหารฮาลาลที่ชั้นสอง

อร่อยไปกับอาหารรสเลิศอย่าง nasi padang (นาซิปาดัง) (ข้าวราดกับข้าวที่มีทั้งเนื้อสัตว์ แกง และผัดผัก) จากร้าน Hajjah Mona Nasi Padang (#02-166) หรือชิมของหวานอร่อยๆ ที่เรียกว่า chendol (เซนดอล) จากร้าน Cendol Geylang Serai (#02-107) ซึ่งก็คือลอดช่องน้ำกะทิที่ใส่น้ำแข็งไส ราดนมและถั่วแดง และ gula melaka (กูลา เมลากา) (น้ำตาลมะพร้าว)

ปิดท้ายกิจกรรมตะลอนชิมอาหารวันนี้ด้วยขนมน้ำตาลมะพร้าวเชื่อม gula melaka จากร้าน Haig Road Putu Piring และเมื่อคุณไปแถวนั้น อย่าลืมแวะไปชม Khadijah Mosque (มัสยิดคาดิจาห์) ที่สวยงามและเห็นพี่น้องชาวมุสลิมเข้ามาสักการะบูชาและประกอบพิธีทางศาสนา

ในช่วงเทศกาลรอมฎอน ย่านพื้นที่นี้จะอื้ออึงไปด้วยเสียงแห่งการเฉลิมฉลอง เพราะชุมชนชาวมุสลิมเตรียมงานเทศกาลวันอีด (Eid) (หรือที่คนท้องถิ่นเรียกกันว่า เทศกาลฮารี รายา ปัวซา) ลองแวะไปที่ตลาดกลางคืนที่จัดงานเป็นประจำทุกปีอย่าง Geylang Serai Bazaar (เกลัง เซอไร บาซาร์) เพื่อเลือกซื้อเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายแบบชาวมาเลย์และยังมีอาหารฮาลาลริมทางขายด้วย อร่อยกับเบเกิลสายรุ้ง ชูโรส และขนมขบเคี้ยวอย่าง keropok lekor (ข้าวเกรียบปลากรือโป๊ะ) และ dendeng (เนื้อแดดเดียวสูตรมาเลย์)


สถานี Queenstown

Queenstown (ควีนส์ทาวน์) หนึ่งในย่านที่เก่าแก่ที่สุดและมีเสน่ห์ที่สุดของสิงคโปร์ เป็นที่ที่เหมาะจะแวะไปเที่ยวหากคุณต้องการหลีกเร้นจากความวุ่นวายของเมือง

บรรดาแฟนกีฬาและนักช้อปที่ชอบต่อรองราคาควรจะแวะไปที่ Queensway Shopping Centre (ศูนย์การค้าควีนส์เวย์) ศูนย์การค้าเก่าแก่แห่งนี้เป็นแหล่งรวมอุปกรณ์กีฬา คุณสามารถเลือกซื้อชุดกีฬาและรองเท้ากีฬาได้ในราคาไม่แพง

หากคุณสนใจจะศึกษาวัฒนธรรมเก่าแก่ ลองแวะไปที่ My Queenstown Museum (พิพิธภัณฑ์ควีนส์ทาวน์ของฉัน) พิพิธภัณฑ์ที่ดำเนินการโดยชุมชนแห่งนี้มีข้าวของเครื่องใช้ยุคเก่าที่จะทำให้คุณมองเห็นภาพสิงคโปร์ในอดีตได้


Raffles Place (ราฟเฟิลส์ เพลซ)
วิวยามค่ำคืนของบาร์บนชั้นดาดฟ้าที่ 1-Altitude Bar

Raffles Place (ราฟเฟิลส์ เพลซ) เป็นย่านการเงินที่วุ่นวายจอแจในช่วงกลางวัน และเป็นแหล่งสถานบันเทิงยามราตรีในช่วงกลางคืน ที่นี่มีทุกอย่างที่คุณต้องการไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารและเครื่องดื่ม และงานปาร์ตี้ คุณสามารถไปทานอาหารกลางวันร่วมกับบรรดาพนักงานออฟฟิศที่ Lau Pa Sat (ศูนย์อาหารนานาชาติเหล่าพาซ๊าด) (แปลว่า “ตลาดเก่า” ในภาษาจีนกลาง) และเพลิดเพลินไปกับอาหารท้องถิ่นที่มีให้เลือกมากมาย ศูนย์อาหารขนาดใหญ่แห่งนี้มีร้านขายอาหารมากมาย เช่น ban mian (ปั้นเหมี่ยน หรือเส้นก๋วยเตี๋ยวทำเอง), ผัดหมี่ฮกเกี้ยนกุ้ง (หมี่เหลืองผัดทะเล) และ สะเต๊ะ (หมูเสียบไม้ย่าง) สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคืออะไร ที่นี่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้น คุณไม่ต้องกลัวว่าจะหิวถ้าเดินเที่ยวอยู่แถวๆ นี้

หากต้องการชมวิวเส้นขอบฟ้าที่สวยงาม ลองขึ้นมาที่ชั้นดาดฟ้าของ One Raffles และมานั่งดื่มที่ 1-Altitude บาร์แห่งนี้มีพื้นที่ 3 ชั้น โดยมีทั้งร้านอาหาร เลานจ์ และแกลเลอรี่ที่สามารถชมวิวได้ 360 องศา เพื่อให้คุณได้ชมทัศนียภาพที่สวยงามจากตึกสูง ลองชิมเครื่องดื่มค็อกเทล และย้ายไปที่ฟลอร์เต้นรำ ที่นี่มีดีเจที่มีชื่อเสียงทั้งในสิงคโปร์และจากต่างประเทศ ผลัดกันมาทำหน้าที่เปิดแผ่นให้คุณได้สนุกสนาน


Jurong East
หญิงสาวกำลังเลือกซื้อกระเป๋าถือ

Orchard Road (ถนนออร์ชาร์ด) ไม่ใช่สวรรค์สำหรับนักช้อปเพียงแห่งเดียวในสิงคโปร์ ลองไปที่ Jurong East (จูร่ง อีสท์) ที่อยู่ใกล้กับห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่สี่ห้างติดๆ กัน หากคุณสนใจจะเลือกชมเสื้อผ้าแบรนด์ดังที่มีสไตล์ เชิญแวะไปที่ JEM ที่มีแบรนด์ชั้นนำ เช่น H&M, Topshop และ adidas ในขณะที่ร้านเสื้อผ้าแฟชั่นสตรีทราคาย่อมเยานั้นมีอยู่ทุกมุมในห้าง JCube

ถ้าคุณสนใจเสื้อผ้ากีฬา เชิญเลือกชมเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาได้ที่ห้าง IMM หรือแวะพักเพื่อชิมราเมง (บะหมี่ญี่ปุ่น) ได้ที่ภัตตาคารญี่ปุ่นที่มีให้เลือกหลายร้านตลอดแนวถนน Westgate (เวสเกต)

คุณจะไม่ต้องกังวลอีกต่อไปถ้าพาเด็กๆ ไปด้วย เพราะคุณสามารถพาเด็กๆ ไปสนุกที่ The Rink ของห้าง JCube ที่ที่เด็กๆ จะสนุกสนานไปกับการเล่นสเกตน้ำแข็ง สำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง สนามเด็กเล่นที่ชั้นดาดฟ้าซึ่งจัดเป็นธีมสวนที่ห้าง Westgate คือคำตอบ


ริมทะเลสาบ
ผู้คนกำลังนั่งพักผ่อนคลายกันที่ Lakeside Promenade ใน Jurong Lake Gardens

หมายเหตุ: Chinese Garden (ไชนีสการ์เด้น) ปิดปรับปรุงมาตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2019

สำหรับผู้ที่รักธรรมชาติและชอบความสงบเงียบ ก็ควรแวะไปที่ Jurong Lake Gardens อุทยานแห่งชาติแห่งใหม่ล่าสุดและนับเป็นแห่งที่สามของสิงคโปร์

พื้นที่สีเขียวนี้ประกอบด้วยสามส่วนที่มีจุดเด่นแตกต่างกัน และกินพื้นที่ถึง 90 เฮกตาร์โดยเต็มไปด้วยความเขียวชอุ่มร่มรื่น

Chinese และ Japanese Garden (ไชนีสและเจแปนนีสการ์เดน) ที่ออกแบบตกแต่งในธีมตะวันออก จะเปิดให้บริการในปี 2021 แต่คุณสามารถสัมผัสความงามของธรรมชาติและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ภายในบริเวณ Lakeside Garden ที่มีพื้นที่ 53 เฮกตาร์ได้หากแวะไปเที่ยวที่นั่น