ชาวจีน

ชาวจีนในสิงคโปร์ถือเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์

ชาวจีนนับเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ โดยมีสัดส่วนถึงเกือบ 3 ใน 4 ของประชากรในประเทศ จึงไม่น่าประหลาดใจที่วัฒนธรรมจีน (ตั้งแต่ภาษาและอาหารไปจนถึงความบันเทิงและเทศกาลเฉลิมฉลอง) จะมีบทบาทเด่นในสิงคโปร์

ชาวจีนส่วนใหญ่ในสิงคโปร์อพยพมาจากมณฑลทาง ใต้ของประเทศจีน รวมถึงฝูเจี้ยนและกวางตุ้ง ชาวจีนฮกเกี้ยนและแต้จิ๋วจะเป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุด รองลงมาคือชาวจีนกวางตุ้งและไหหลำ รวมทั้งชาวจีนเชื้อสายอื่น ๆ

ชาวจีนส่วนใหญ่ในสิงคโปร์เป็นผู้อพยพมาจากมณฑลทางใต้ของจีน

ผู้คนจำนวนมากอพยพมาที่นี่เพื่อหลีกหนีจากสภาพแวดล้อมที่ยากจนแร้นแค้น ของบ้านเกิด และมาทำงานเป็นกุลีหรือผู้ใช้แรงงาน ชาวจีนหลายคนประสบความสำเร็จจากความพากเพียรและมัธยัสถ์ ขณะที่หลายคนค่อย ๆ ไต่เต้าขึ้นเป็นเจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ปัจจุบัน ชาวสิงคโปร์เชื้อสายจีนมีอยู่ในภาคส่วนต่าง ๆ ของสังคม ตั้งแต่แวดวงการเมืองและธุรกิจ ไปจนถึงแวดวงกีฬาและความบันเทิง

แม้ว่า วัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวจีนจะถูกหลอมรวมเข้ากับกลุ่มชาติพันธุ์ท้องถิ่นอื่น ๆ ในประเทศและยังได้รับอิทธิพลจากตะวันตกอีกด้วย แต่ในเทศกาลตรุษจีน เราจะเห็นชาวจีนพากันเฉลิมฉลองในพิธีกรรมที่มีเอกลักษณ์ของเทศกาลนี้กัน อย่างเคร่งครัด

เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

ชาวมาเลย์

ชาวมาเลย์ในสิงคโปร์เป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่มีความผูกพันใกล้ชิดกันมาก

ชาวมาเลย์ซึ่งเป็นคนกลุ่มแรก ๆ ที่เข้ามาตั้งรกรากในสิงคโปร์ นับเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศ ด้วยเหตุนี้ วัฒนธรรมของพวกเขาจึงมีอิทธิพลเหนือชาติพันธุ์อื่น ๆ ที่มาตั้งรกรากที่นี่ในภายหลัง

ชาวมาเลย์ในสิงคโปร์นั้นอพยพมาจากภูมิภาคใกล้เคียง เช่น หมู่เกาะชวาและบาเวียนของอินโดนีเซีย รวมทั้งคาบสมุทรมาลายู

ภาษามาเลย์ที่เป็นภาษาพูดของคนท้องถิ่นที่นี่ใกล้เคียงกับภาษามาเลย์ที่ใช้กันในคาบสมุทรมาลายู มากกว่าที่ใช้ในอินโดนีเซีย

กล่าวกันว่าชาวมาเลย์เป็นผู้ที่มาตั้งรกรากในสิงคโปร์เป็นกลุ่มแรก

อาหารของชาวเปอรานากัน ได้แก่ นาซิเลอมัก (ข้าวหุงกับกะทิและใส่ใบเตยหอม) และหมี่เรอบุส (เส้นหมี่เหลืองราดน้ำรสเผ็ด) ที่มีรสชาติแตกต่างจากอาหารท้องถิ่นและเป็นอาหารริมทางยอดนิยมของสิงคโปร์

ชาว มาเลย์ส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมและงานเทศกาลเฉลิมฉลองที่สำคัญก็คือ งานฮารี รายา ปัวซา และงานฮารี รายา ฮัจจิ โดยเราจะเห็นชุมชนที่มีความใกล้ชิดกันนี้เฉลิมฉลองเทศกาลที่เต็มไปด้วยสีสัน นี้รวมกัน อันเป็นเทศกาลที่มีความสำคัญในเชิงวัฒนธรรมและศาสนา

เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

ชาวอินเดีย

วัฒนธรรมอินเดียได้เพิ่มสีสันให้กับสิงคโปร์ที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางเชื้อชาติ

ชาวอินเดียเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของสิงคโปร์ และชุมชนที่นี่มีประชากรชาวอินเดียที่เป็นชาวต่างชาติเป็นจำนวนมากที่สุด

ชาว อินเดียส่วนใหญ่มาจากภาคใต้ของอินเดียหลังจากที่อังกฤษได้เข้ามาตั้งรกรากใน สิงคโปร์ในปี ค.ศ. 1819 ปัจจุบัน พลเมืองอินเดียเกือบ 60% ที่สิงคโปร์เป็นลูกหลานของชาวทมิฬ กว่าครึ่งหนึ่งของชาวอินเดียในสิงคโปร์ยังเป็นชาวฮินดูอีกด้วย

อย่าง ที่ทราบกันดีว่าชาวอินเดียมีสัญชาติญาณของการเป็นผู้ประกอบการ ชาวอินเดียส่วนใหญ่จึงประกอบธุรกิจขึ้นที่นี่ โดยค้าขายแทบทุกอย่างตั้งแต่สิ่งทอไปจนถึงเพชรพลอยอัญมณี ทุกวันนี้ พวกเขายังมีบทบาทในแวดวงการเมืองและผู้เชี่ยวชาญทางวิชาชีพอีกด้วย

ชาวอินเดียในสิงคโปร์เป็นหนึ่งในชุมชนชาวอินเดียในต่างประเทศที่มีจำนวนมากที่สุดในโลก

คุณคงไม่สามารถพูดถึงชาวอินเดียในสิงคโปร์ได้ถ้าไม่กล่าวถึงอาหารของพวก เขา ซึ่งช่วยเพิ่มรสชาติแปลกใหม่ให้กับอาหารที่หลากหลายของสิงคโปร์ และนับเป็นอาหารสุดโปรดของใครหลาย ๆ คน เช่น โดซา (Thosai) หรือขนมเบื้องญวนแบบอินเดีย และขนมวาได (Vadai) หรือขนมแป้งทอด

เทศกาล ของชาวอินเดียที่นี่เต็มไปด้วยความสนุกสนานคึกคักหลากสีสัน เทศกาลดีปาวลี (ทีปาวลี) หรือเทศกาลแห่งแสงไฟเป็นงานเทศกาลหลักของชาวอินเดีย ขณะที่เทศกาลไทปูซัมซึ่งเป็นเทศกาลศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดูที่เหล่าสาวกจะ ใช้เหล็กแหลมแทงตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเพื่อเป็นการล้างบาป นับเป็นงานเทศกาลแห่งศรัทธาความเชื่อที่น่าตื่นเต้นสำหรับผู้เข้าชม

เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

ชาวยูเรเชียน

ชาวยูเรเชียในสิงคโปร์เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการผสมผสานวัฒนธรรมตะวันออกกับวัฒนธรรมตะวันตกได้อย่างลงตัวและสร้างสีสันในสิงคโปร์

ชุมชนยูเรเชียนกลุ่มเล็ก ๆ แต่ก็มีอิทธิพลสูงในสิงคโปร์และช่วยสร้างสีสันของโลกตะวันออกที่มาพบกับโลก ตะวันตกในประเทศนี้ได้เป็นอย่างดี กลุ่มชาติพันธุ์นี้ประกอบด้วยผู้คนทั้งชาวยุโรปและชาวเอเชีย ซึ่งได้ย้ายมาอยู่ในสิงคโปร์ตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 19

ชาวยูเรเชียน ส่วนใหญ่ในสิงคโปร์สามารถสืบค้นย้อนหลังได้ว่าบรรพบุรุษของพวกเขาเป็นชาว ยุโรป เช่น ชาวโปรตุเกส ดัตช์ หรืออังกฤษ ในขณะที่บรรพบุรุษชาวเอเชีย นั่นก็คือ ชาวจีน ชาวมาเลย์ หรือชาวอินเดีย

ชาวยูเรเชียนกลุ่มแรกมา ถึงสิงคโปร์เพียง 2-3 ปีให้หลังนับจากที่อังกฤษได้ก่อตั้งสิงคโปร์ขึ้นในปี ค.ศ. 1819 และส่วนใหญ่แล้วเดินทางมาจากปีนังและมะละกา ในยุคอาณานิคม ชาวยูเรเชียนส่วนใหญ่ได้รับการว่าจ้างให้เป็นเสมียนในหน่วยงานราชการ ธนาคารยุโรป และองค์กรเชิงพาณิชย์และองค์กรการค้าอื่น ๆ ส่วนผู้หญิงก็มักทำงานเป็นครูหรือนางพยาบาล

ชาวยูเรเชียนยุคแรก ๆ เดินทางถึงสิงคโปร์เพียงไม่กี่ปีหลังจากที่ชาวอังกฤษได้ก่อตั้งสิงคโปร์

ปัจจุบันมีชาวยูเรเชียนในสิงคโปร์ราว 15,000-30,000 คน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 1% ของประชากรทั้งหมด กล่าวได้ว่าชาวยูเรเชียนมีบทบาทสำคัญในสื่อและอุตสาหกรรมบันเทิงของประเทศ

ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแรกของชาวยูเรเชียน แม้ว่าคนรุ่นเก่าที่มีเชื้อสายโปรตุเกสจะพูดภาษาโปรตุเกสลูกผสมหรือที่เรียกว่า ภาษาคริสตัง

นอกจาก นี้ ชาวยูเรเชียนยังมีวัฒนธรรมอาหารของตนเอง เช่น อาหารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะอย่างเช่น Mulligatawny Soup (หรือซุปเผ็ดร้อนของอินเดีย) พายเนื้อแกะ และเค้ก Sugee ที่มีส่วนผสมหลักคือแป้งเซโมลิน่า

เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

เปอรานากัน

ชาวเปอรานากันในสิงคโปร์นับเป็นเสน่ห์ของการผสมผสานวัฒนธรรมต่าง ๆในภูมิภาคนี้ได้อย่างลงตัว

อาหารเปอรานากันได้รับอิทธิพลมาจากอาหารมาเลย์ที่เผ็ดร้อนอาจจะเป็นสิ่งที่ผู้คนสัมผัสได้บ่อยที่สุดสำหรับกลุ่มชาติพันธุ์นี้

ชาว เปอรานากันเป็นผลพวงจากการผสมผสานทางวัฒนธรรมอันมีเสน่ห์ของภูมิภาคนี้ คำว่าเปอรานากัน หมายถึง ผู้คนที่เป็นลูกหลานของคู่สมรสระหว่างชายชาวจีนหรืออินเดีย กับหญิงสาวชาวอินโดนีเซียหรือชาวมาเลย์ท้องถิ่นที่พบได้ทั่วเอเชียอาคเนย์

ชา วจีนเปอรานากัน หรือชาวจีนช่องแคบ (Straits Chinese) ในสิงคโปร์สืบเชื้อสายมาจากผู้ที่เคยอาศัยอยู่ในบริเวณแถบมะละกาในศตวรรษที่ 15 โดยบรรพบุรุษของพวกเขาเป็นพ่อค้าชาวจีนที่แต่งงานกับหญิงสาวชาวมาเลย์ท้อง ถิ่น

นอกจากนี้ ยังมี Chitty Melaka หรือชาวอินเดียเปอรานากัน ที่เป็นลูกหลานของพ่อค้าฮินดูชาวอินเดียใต้ที่แต่งงานกับหญิงสาวท้องถิ่น และหญิงสาวชาวยาวี เปอรานากัน ซึ่งเป็นลูกหลานของพ่อค้ามุสลิมจากอินเดียใต้กับหญิงสาวในชุมชนท้องถิ่น

ชาวเปอรานากันยุคเริ่มต้นส่วนใหญ่มักเป็นพ่อค้าแม่ขาย ในขณะที่บางคนก็ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ชิปปิ้ง และการธนาคาร

แม้ว่า ชาวจีนช่องแคบส่วนใหญ่ได้ปรับตัวเข้ากับชุมชนชาวจีนกลุ่มใหญ่แล้ว แต่พวกเขาก็ยังคงรักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของตนไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องอาหารและเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย

Nonya food ซึ่งตั้งชื่อตามบรรดาสตรีที่ปรุงอาหารชนิดนี้ สะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของอินโดนีเซียและมาเลย์ที่แข็งแกร่ง ดังจะเห็นได้จากการใช้เครื่องเทศและกะทิในอาหาร

ชุดพื้นเมืองของชาวเปอรานากันหรือที่เรียกว่า ชุดเกบาย่า (Nonya Kebaya) แสดงให้เห็นถึงรายละเอียดของลายปักที่สวยงาม

ในงานสำคัญ ๆ ที่เป็นทางการ สตรีชาวเปอรานากันมักจะสวมใส่ชุดพื้นเมือง เช่น ชุดเกบาย่า ที่ได้รับอิทธิพลจากชุดเกบาย่าที่สวมคู่กับโสร่งของมาเลย์

เสื้อผ้าที่มีสีสันสดใสสวยงามมักปักประดับด้วยลวดลายที่ละเอียดประณีต เช่น ลายกุหลาบ ดอกกล้วยไม้ หรือผีเสื้อ

เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

สิ่งอื่นๆ

ที่น่าลอง